ปทุมธานี – สายไหมต้องรอดประสานพม.และตร.เข้าช่วยเหลือเด็กถูกพ่อเลี้ยงทำร้าย
ปทุมธานีสายไหมต้องรอดประสานพม.และตร.เข้าช่วยเหลือเด็กถูกพ่อเลี้ยงทำร้าย
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 27 มิ.ย.68 นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอดได้ประสาน นางสาวสุภชา พรหมศร หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดปทุมธานี เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กจังหวัดปทุมธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสภ.คลองหลวง เข้าช่วยเหลือเด็กที่ถูกพ่อเลี้ยงทำร้ายร่างกาย ภายในซอยคลองหลวง 13 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงเป็นห้องเช่าเลขที่ 12/253 พบมีพ่อแม่ลูกและคนแก่อยู่ภายในห้องเช่า ทางด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงและได้สอบถามคนในบ้านถึงเรื่องที่เกิดขึ้น
จากการสอบถามนางสาวอุ้ม อายุ 29 ปี แม่ของเด็กบอกว่าตนเองมีลูก2 คนเป็นผู้ชายทั้งคู่คนโตอายุ 7 ขวบและคนเล็กอายุ 2ขวบครึ่ง ตนเองคบกับนายชัยพร ประชาสุข หรือไผ่ อายุ 28 ปี แฟนใหม่มาตั้งแต่เดือนมีนาคม2568 เขามีอารมณ์ที่รุนแรงแล้วก็ชอบตะคอกใส่ถ้าตนเองไม่ตอบก็จะกระตุ้นด้วยการตบหรือตีซึ่งพฤติกรรมอย่างนี้เขาทำมาตั้งแต่เดือนแรกที่คบกันก็ถ้ามีปัญหาหรือเขาโมโหหงุดหงิดเราต้องเป็นคนดูแลเขาตลอดซึ่งถ้าเขาโมโหก็ทำเลยแต่กับลูกถ้าน้องร้องก็จะถูกทำร้ายไม่ว่าจะร้องไห้ด้วยสาเหตุอะไรเขาโมโหปุ๊บเขาก็ตีเลยทั้งคนโตด้วยและคนเล็กด้วยซึ่งบนเตียงจะนอนเรียงกัน 4 คนถ้าคนโตนอนดิ้นถูกเขาก็จะถูกหยิกซึ่งที่ตนเองยอมอยู่กับเขานั้นเพราะว่าเราเอาเขามาอยู่ด้วยแล้วแล้วมันก็น้ำท่วมปากพูดอะไรไม่ได้และก็ไม่กล้าบอกกับพ่อของตนเองด้วยและก็พยายามบอกผ่านทางเพื่อนให้มาช่วยเหลือ ซึ่งตนเองกับเขาก็จะช่วยกันขายของแต่เขาไม่ได้ติดยาและไม่ได้กินเหล้ารุ่นพี่พฤติกรรมเขาเป็นอย่างนี้เขาบอกว่า เขามีปมด้อยที่บ้านของเขาด้วยเขาจึงทำร้ายตนเองด้วยการกรีดหน้าตัวเอง ซึ่งเขาอ้างว่าเป็นอย่างนั้น ซึ่งตัวเองก็เคยบอกกับเขาแล้วว่าอย่าเอาวิธีที่แม่ของเขาทำร้ายเขามาใช้กับลูกของหนูไม่ได้ แต่เขาก็ไม่เชื่อบางครั้งเขาก็ตีตนเองด้วยตัวเองพยายามห้ามแต่เขาก็ไม่ฟังและครั้งที่รุนแรงที่สุดคือปิดปากและพยายามบีบคอลูกของตนเองเส้นทางที่ร้ายแรงที่สุดตนเองถูกทำร้ายจนเย็บ 5 เข็มบริเวณคิ้วหลังจากนี้ตนเองไม่เอาอีกแล้วและเขาก็เคยข่มขู่ว่าถ้าต้องเลิกกันก็ต้องมีของเสียหายหรือใครต้องเป็นอะไรสักคนหนึ่ง เมื่อกี้ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไปเขายังหันมาถามเลยว่าอุ้มเป็นคนแจ้งเหรอ และเขาก็พยายามดูโทรศัพท์ของตนเองตลอดและก็ตนเองก็หาวิธีอยู่ตลอดว่าจะเอาเขาออกจากชีวิตยังไง ซึ่งตัวเองก็ได้ขอความช่วยเหลือไปทางพ่อของเด็กซึ่งเป็นแฟนเก่าของตนเองแต่ทางพ่อของลูกนั้นไม่ถูกกับพ่อของตนเองและก็บอกว่าจัดการเอาเองซึ่งเวลาเขาทำร้ายลูกของตนเองหรือตนเองก็จะทำเวลาที่พ่อไม่อยู่
ด้านนางสาวดาว อายุ 30 ปี เพื่อนของแม่เด็กบอกว่าตนเองเป็นเพื่อนของแม่เด็กซึ่งตัวเองเห็นพฤติกรรมของแฟนใหม่ของเพื่อนแล้วมีทั้งตบตีแม่เด็กและตัวเด็กด้วยซึ่งพฤติกรรมแบบนี้แฟนใหม่ของเพื่อนคบกันได้เพียงแค่ 4-5 เดือน หลังจากคบกันแค่ 1 อาทิตย์ก็มีการตบตีเพื่อนของตนเองซึ่งพฤติกรรมของแฟนใหม่เพื่อนนั้นน่าจะดูดกัญชาและปลูกฝังมาจากบ้านของเขาเอง ซึ่งเพื่อนเล่าให้ฟังว่าครอบครัวของเขาไม่พอใจก็จะตบจะตีเขาตลอด ทางเพื่อนเล่าให้ฟังอยู่ตลอดว่าถูกสามีใหม่ทำร้ายตัวเองก็พยายามเข้าไปช่วยเหลือแต่บางครั้งเพื่อนของตัวเองก็เหมือนรักกับสามีดี ที่ตนเองได้ร้องไปทางเพสสายไหมต้องรอดนั้นก็เพราะสงสารหลานกลัวหลานจะเสียชีวิตเพราะสามีใหม่ของเพื่อนทำร้ายทั้งคนเป็นพี่คนโตและน้องคนเล็กก็อยากจะให้รายงานเข้ามาช่วยเหลือในตรงนี้
ส่วนนายชัยพร หรือไผ่ ประชาสุข อายุ 28 ปี (พ่อเลี้ยงผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายเด็ก) ตัวเองเป็นแฟนใหม่ของแม่เด็กที่ตนเองทำไปนั้นด้วยอารมณ์ชั่ววูบซึ่งจากคลิปนั้นตนเองไม่ได้บีบคอเพียงแค่ปิดปาก เพราะว่าเด็กร้องคนอื่นยืนยันว่าไม่ได้บีบคอเด็กแล้วตอนนี้ยืนยันว่าไม่ได้เสพยาเสพติดเพราะว่าเด็กงี่เง่า ซึ่งเด็กสองคนนี้ไม่ใช่ลูกของตนเอง แต่ตนเองก็มีลูกของตนเองตอนนี้ได้เลิกกับแฟนเก่าไปแล้วส่วนลูกนั้นก็ให้แฟนเก่าเป็นคนดูแลแต่ก็ไม่เคยทำแบบนี้กับลูกของตนเองและก็เคยข่มขู่แฟนเหมือนกันที่ทำไปนั้นเพราะตัวเองเครียดทะเลาะกับแม่ของตนเองด้วยเพราะตอนเด็กๆตัวเองทะเลาะกับแม่และโดนแม่ไล่ออกจากบ้านส่วนคนโตนั้นใช้แค่มือตีเฉยๆเพราะเขาไปแจ้งน้อง ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวไปสอบสวนเพิ่มเติมที่สภ.คลองหลวง
ด้านนางสาวสุภชา พรหมศร หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดปทุมธานี บอกว่าณะนี้ได้เข้าสู่กระบวนการการคุ้มครองเด็ก และดำเนินคดีกับผู้ชายที่ทำร้ายเด็กซึ่งเป็นแฟนใหม่ของแม่เด็ก และต้องพูดคุยกับตัวแม่เด็กว่าจะต้องทำยังไงถ้าตัวของแม่เด็กไม่ประสงค์ที่เข้าสู่กระบวนการคุ้มครอง และก็ต้องปรึกษากับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะต้องทำยังไงเพื่อที่จะไม่ให้เขามาข่มขู่น้องอีกทางบ้านพักเด็กสามารถดำเนินคดีในเรื่องความรุนแรงในครอบครัวแต่ส่วนอื่นนั้นต้องรอสอบปากคำและต้องปรึกษากับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้ง
ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด บอกว่าตนเองต้องขอขอบคุณเพื่อนของแม่เด็กเมื่อทราบข่าวก็ไม่ได้นิ่งนอนใจแล้วไม่เพิกเฉยและได้ประสานมาทางเขตสายไหมต้องรอดเพื่อขอความช่วยเหลือพร้อมทั้งส่งคลิปวีดีโอมาด้วยส่วนคลิปวีดีโอนั้นคุณเองได้ส่งให้ทางเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้วในส่วนของการทำร้ายร่างกายนั้นก็จะต้องไปดูว่ามีอยู่คลิปนึงทางด้านเพาะเลี้ยงได้เอามือไปอุดปากเด็กจนเด็กนิ่งไปเลยต้องสอบผู้จัดการว่าเขาตั้งใจทำอะไรและตนเองประสงค์ที่จะให้ดำเนินคดีทุกข้อหาหนักเลยพฤติกรรมของเขานั้นมันเลวร้ายมากและตนเองได้สอบถามทางกลัวพ่อเลี้ยงแล้วว่าเคยทำแบบนี้กับลูกตนเองไหมเขาก็บอกว่าเขาไม่เคยทำ แต่ที่เขามาทำแบบนี้กับลูกเลี้ยงเพราะเขาคิดว่าไม่ใช่ลูกของตนเองต้องเอาให้หนักปล่อยไว้ก็เป็นภัยสังคมและก็ไม่เกิดประโยชน์กับสังคมต้องเอาไปอบรมนิสัยในคุกก่อน