ข่าวทั่วไปพาดหัวข่าว

ความคืบหน้า เงินและทองหาย วัดม่วง บางแค

ความคืบหน้า เงินและทองหาย วัดม่วง บางแค

วันที 2 กรกฎาคม 2568 เมื่อช่วงสายของวันนี้

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. สั่งชุดสืบสวนกลาง ปปป. เร่งคลี่คลายปมคนร้ายลักทรัพย์เงินเจ้าอาวาสจำนวน 10 ล้านและทองคำ 250 บาท

สืบเนื่องจากกรณี เหตุคนร้ายลักทรัพย์ จำนวนเงิน 10 ล้าน-ทองคำหนัก 250 บาท ภายในกุฏิเจ้าอาวาส วัดม่วง ซอย เพชรเกษม 63 ถนน เพชรเกษม แขวง หลักสอง เขต บางแค กรุงเทพมหานคร

ล่าสุดเมื่อเวลา 11.33 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. สั่งการให้พนักงานสืบสวนของ ปปป. เข้ามาร่วมตรวจสอบกับชุดคณะปฎิบัติงานคลี่คลายคดีสน. เพชรเกษม โดยวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง ปปป. ได้เดินทางเข้ามาที่วัดม่วง และเดินไปที่ กุฎิเจ้าอาวาส แต่ปรากฏว่า กุฎิเจ้าอาวาส ยังคงปิดล็อคกุญแจจากด้านหน้า เจ้าหน้าที่ ปปป. จึงพยายามหาทางเข้าไปพบเจ้าวาสและโทรสอบถามแต่ไม่สามารถ ติดต่อได้

และจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนของ ปปป. เบื้องต้น เพื่อเข้ามาสอบถามถึงประเด็น ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งตอนนี้ยังไม่พบตัวเจ้าวาสและคนสนิทซึ่งเป็นคนขับรถเจ้าอาวาสซึ่งตำรวจสอบสวนกลางพยายามโทรศัพท์ติดต่อสอบถามแต่ไม่สามารถติดต่อเจ้าอาวาสได้

ส่วนทางด้านพระลูกวัด ตั้งข้อสงสัยว่าล็อกประตูถึง 5 ชั้นเงินและ ทองคำ หายไปได้ยังไง

ซึ่งพระลูกวัดม่วง ตั้งข้อสงสัย ตู้เซฟใบเท่าโอ่งมังกร เงินจะหายได้อย่างไร กุฎิไม่มีรอยงัดแงะ พร้อมทั้งตั้งคำถามกลับ เอาเงินไปใช้จ่ายอะไร เอาไปให้ใคร หรือ เปล่า ย้ำต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบสวนเรื่องนี้ จะได้เกิดความชัดเจน

และต่อมาเมื่อเวลา. 13.00 น. ของวันนี้ ( วันที่ 2 กรกฎาคม 2568 ) ผู้สื่อลงพื้นที่ไปยังที่ วัดม่วง แขวงหลักสอง บางแค กรุงเทพมหานคร ได้เข้าไปสอบถามอดีตพระคนสนิท พระราชวัชรพัฒนาทร เจ้าอาวาสวัดม่วง ทราบชื่อคือ พระนิทัศน์ จำพรรษาอยู่ที่วัดม่วงมา 26 พรรษา ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวและตั้งข้อสงสัย ว่ากุฏิไม่มีรอยงัดแงะ กว่าจะเข้าไปด้านในล็อกประตูทั้ง 5 ชั้น เงินจะหายไปได้อย่างไร ตู้เซฟใบเท่าโอ่งมังกร ถ้าไม่หายเอาไปใช้ อะไรหรือเอาไปทำอะไร เอาไปให้ใครหรือเปล่า อันนี่ก็ต้องรอเจ้าหน้าที่ พิสูจน์หลักฐานก่อน แต่แค่ตั้งข้อสงสัยนะ

นอกจากนี้ พระนิทัศน์ ยังกล่าวอ้างว่า เงินบริจาคจำนวนมหาศาลในวัดแห่งนี้ไม่เคยมีการเปิดเผยต่อสาธารณะหรือแม้แต่พระภิกษุในวัดเอง “สร้างโบสถ์ สร้างพระประธาน เป็นเงินหลายล้านบาท แต่ไม่มีใครเคยรู้เลยว่าใช้จริงเท่าไหร่ เหลือเท่าไหร่ เงินทั้งหมดถูกรวมอยู่ที่ เจ้าอาวาส คนเดียว พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า “เงินส่วนตัว” ที่เจ้าอาวาสอ้างนั้น อาจแท้จริงแล้วคือ “เงินบริจาค” ของญาติโยม

ซึ่งกรณีเงินสดจำนวน 10 ล้านบาท และ ทองคำแทง ที่หายไปจาก กุฏิเจ้าอาวาส พระนิทัศน์ เชื่อว่า “ไม่น่าจะเป็นการโจรกรรมจากบุคคลภายนอก” เนื่องจากกุฏิเจ้าอาวาสมีประตูปิดล็อคหนาแน่ถึง 5 ชั้น ขนาดยุงยังบินเข้าไปไม่ได้ และมีเพียงเจ้าอาวาสเท่านั้นที่สามารถเข้าไปในพื้นที่ได้

พระนิทัศน์ จึงเรียกร้องให้มีการตรวจสอบเส้นทางการเงินภายในวัดอย่างจริงจัง โดยเฉพาะเงินบริจาคที่หลั่งไหลเข้ามาตลอดหลายสิบปี “อยากให้เปิดบัญชีวัดให้ประชาชนเห็นชัดๆ ว่ามีเงินเข้าออกเท่าไหร่ ใช้อะไรบ้าง เพราะนี่คือเงินศรัทธา ไม่ใช่ของส่วนตัว”

แม้จะตระหนักถึงอันตรายจากการออกมาเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้ แต่พระรูปดังกล่าวยืนยันว่า “ไม่กลัว” พร้อมเสนอให้เปิดเผยเรื่องราวต่อสาธารณะผ่านรายการสื่อกระแสหลัก เพื่อให้ “ความจริงกระจ่าง” และเพื่อ “ชำระล้างวงการสงฆ์ให้โปร่งใส”