จับกุมพาดหัวข่าว

สืบภาค9 ล้อมจับเสือวอ ลานข่อย หรือ นายวินัย เกื้อสง อายุ 28 ปี มี 3 หมายจับ

สืบภาค9 ล้อมจับเสือวอ ลานข่อย หรือ นายวินัย เกื้อสง อายุ 28 ปี มี 3 หมายจับ คดีพยายามฆ่า 1 หมาย ยาเสพติด 1 หมาย และล่าสุด กังขังหน่วงเหนี่ยวทำร้ายร่างกาย ล้อมจับนับสิบครั้ง ไม่ได้ไหวตัวทันมีคนส่งข่าวโดน ซ้อนแผน ชาท


วันนี้ (23 ส.ค. 2568) เวลาประมาณ 22.30 น.สืบภาค9 นำโดย พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณ์วงศ์ รอง ผบก สส.ภ.9 พ.ต.อ.ศักดา เจริญกุล รอง ผบก.สส.ภ.9
พ.ต.อ.สิทธินันท์ สังฆพันธุ์ รอง ผบก.ภ.จว.พัทลุง พ.ต.อ.ประสิทธิ์ ปานดำ รอง ผบก.ภ.จว.พัทลุง พ.ต.อ.ธรรมรัตน์ ภิรมย์รักษ์ รอง ผบก.ภ.จว.พัทลุง
พรัอมกำลัง เข้าปิดล้อมจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 1 ราย 3 หมาย คือ
นายวินัย เกื้อสง อายุ 28 อยู่บ้านเลขที่ 900 ม.1 ต.ลานข่อย อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง โดยจับกุมตัวตาม หมายจับของศาลจังหวัดพัทลุง
(1 ) โดยจับกุมตัวตาม หมายจับของศาลจังหวัดพัทลุง ที่ จ 195 /2566 ลงวันที่ 27 พ.ค. 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “พยายามฆ่าผู้อื่นมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ
( 2 )โดยจับกุมตามหมายจับของศาลจังหวัดพัทลุง ที่ จ152/2563 ลง 7 พ.ค. 2563
ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมมแอมเฟตามีนหรือยาบ้า ฯ
( 3 ) โดยจับกุมตามหมายจับของศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ จ426/2568 ลง 22 ก.ค. 2568 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีถายใน ร่างกายฯ
พร้อมด้วยของกลาง
1.อาวุธปืนพกสั้นกึ่งออโตเมติก ขนาด 9 มม. หมายเลขทะเบียน กท 5046117 หมายเลขประจำปืน 042966 ยี่ห้อ STEYR สีดำ จำนวน 1 กระบอก
2.กระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 11 นัด
3.แม็กกาซีน จำนวน 1 อัน
4.ซองพกในแบบหนังสีดำ จำนวน 1 ซอง
5.อาวุธปืนยาว ยี่ห้อ FABRIQUE NATONALED-ARMEE จำนวน 1 กระบอก
6.กระสุนปืนขนาด 7.62 จำนวน 73 นัด
7.แม็กกาซีน ขนาด 7.62 จำนวน 3 อัน
8.กระเป๋าผ้ากำมะยี
9.กระป๋องพลาสติกสีขาวเก็บกระสุนปืน ฝาปิดสีเหลือง จำนวน 1 กระป๋อง
10.ผ้าห่มลายสีเหลี่ยม จำนวน 1 ผืน
11.สายสะพายปืนยาว จำนวน 1 เส้น และ นำตัวผู้ต้องหาส่ง สภ.ป่าพะยอม เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


ซึ่งคดีกังขังหน่วงเหนี่ยวทำร้ายร่างกาย นางสาวณิชาภัทร(ผู้เสียหาย เป็นภรรยา)ถูกนายวินัย เกื้อสง( สามี)ซึ่งผู้ต้องหาตามหมายจับ 3 หมาย เล่าให้ฟังว่า ตนแต่งงานกับนายวินัย เกื้อสง เเละมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน อายุ 6 ขวบ
เเล้วก็เลิกกันไปได้ 5 ปี เนื่องจาก ช่วง เดือน พ.ค.2563 นายวินัยถูกตำรวจเข้าจับยาเสพติดที่บ้าน จำนวนมาก แล้วหลบหนี ปล่อยให้ฉัน เมียถูกจับแทน แต่ฉันไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยา มีผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน เป็นพยาน ให้จนสู้คดีหลุดมา นายวินัย ไม่พอใจว่าทำไมไม่รับแทน จนทำให้ฉันถูกจำคุกอยู่หลายเดือน ฉันจึงหลบแอบไปทำงานจน วันนึงนายวินัย รู้ว่า นางสาว ณิชาภัทร มีคนใหม่มาจีบ จึงมาพาตัวนาง
ณิชาภัทรไปโดยเอาปืนจี้ไปพร้อมลูกสาว เเละเมื่อไปถึงบ้านนายวินัย นางสาวณิชาภัทรก็ถูกตบตี ตั้งแต่ไป ถึง 4 ทุ่มจนถึงเช้า เเละได้โทรมาขอความช่วยเหลือจากเเม่ เพราะเขาทำร้ายร่ายกายทุกวันจนทนไม่ไหวเลยให้เเม่หาคนมาช่วย และนาง สุทารัตน์ก็ได้ไปแจ้งความทั้งที่โรงพักป่าพะยอมเเละชะอวด เมื่อนายวินัยรู้ก็ได้เอาปืนจี้นางสาวณิชาภัทรให้โทรมาบอกนางสุทารัตน์ผู้เป็นแม่ว่าให้ไปถอนเเจ้งความ เเละบอกกับเเม่ว่าเขาไม่ได้ถูกร้ายร่างกาย เเละนายวินัยก็คุยโทรเเละพูดขู่ว่า จะมาฆ่ายกครัวญาติป้าน้าและน้องๆของพี่สาวมันจะฆ่าให้หมด


เเละวันหนึ่งงนางสาวณิชาภัทรถูกทุบตี จนไม่ไหว จึงพาลูกสาวหนี เมื่อนายวินัยรู้ จึงได้โทรหาญาติของนางสาวณิชาภัทร เเละได้โทรไปหาน้องสาวเเละลูกพี่ลูกน้องของนางสาวณิชาภัทร น้องก็ได้รับสายนายวินัยเเละนายวินัยก็ได้บอกว่า บอกให้พี่สาวกลับไปที่บ้านเขาพร้อมลูก เพราะว่าพี่สาวได้สัญญากับเขาเเล้วว่าถ้าพี่สาวหนี คนที่บ้านเเละญาติๆไม่ปลอดภัยจะ ฆ่ายกครัว เคยบอกว่านัดนี้ จะยิง แม่ นัดนี้จะยิงน้อง นัดนี้จะยิงญาติ ที่บ้านทุกคน
จึงทำให้คนที่บ้านเเละญาติๆไม่กล้าออกไปทำงานเเละไม่กล้าออกไปไหนรวมไปถึงเด็กนักเรียน กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนชะอวด 2 คน ไม่ไปได้โรงเรียนเพราะกลัวนายวินัย เกื้อสง จะทำร้าย


พี่เสือ นักข่าว สงขลา