ประจวบฯ/เจ้าทุกข์สุดช้ำลูกจ้างสาวย่องเบาเข้าห้องฉกทองในตู้เซฟขายร้านทองทรัพย์สินสูญหายหลายรายการรวมมูลค่ากว่า1.5ล้านบาท แจ้งความคดีไม่คืบตร.แนะให้ไปถ่ายทรัพย์คืนเอง

กันยายน 4, 2025 admin

Post Views: 103

วันที่ 4กันยายน 2568 ที่ศู นย์ประสานงานผู้สื่อข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อ.ทับสะแก – บางสะพาน – บางสะพานน้อย นางพรรณทิพย์ ภูดีหิน ผอ.รร.แห่งหนี่งในพื้นที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้เดินทางมาพบ นายพิศิษฐ์ รื่นเกษม ประธานชมรมผู้สื่อข่าวจังหวัดประจวบคีาีขันธ์ เพื่อให้ช่วยติดตามคดีที่ นางพรรณทิพย์ ถูกสาวใช้ชาวเมียนม่าร์ ขโมยทองรูปพรรณที่เก็บอยู่ในตู้นิรภัยภายในบ้านไปหลายสิบรายการน้ำหรักทองรวมกันแล้วกว่่า 40 บาท ซึ่งได้มีการแจ้งความไว้ที่ สภ.บางสะพานตั้งแต่เดือนมิถุนายน ซึ่งถึงแม้ว่าจะจับตัวผู้ก่อเหคุได้แล้วแต่ในส่วนของทรัพย์สินที่ถูกขโมยไปมูลค่ารวมกว่า 2 ล้านบาท ยังไม่มีความคืบหน้า

นางพรรณทิพย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตนได้ไปเปิดตู้นิรภัยเพื่อจะเปลี่ยนสร้อยข้อมือแทนเส้นที่ใส่อยู่แต่เมื่อเปิดตู้ออกมาพบว่าทรัพย์สินภายในตู้หายไปหลายสิบรายการน้ำหนักทองรวมกันประมาณ 30 บาท วันรุ่งขึ้นตนจึงได้นำหลักฐานภาพถ่ายทรัพย์สินไปแจ้งความที่ สภ.บางสะพานเพื่อให้ติดคามคนร้ายมาดำเนินคดี ซึ่งเหตุการณ์ดังดกล่าวตนได้สงสัยสาวใช้ชาวเมียรม่าร์ในบ้านที่ตนจ้างมาดูแลแม่ที่ป่วยตืดเตียงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ สืบเนื่องจากเมื่อเดือนมีนาคมได้มีการจ้างสาวใช้ชาวเมียนม่าร์ชื่อแก้ว เพื่อให้มาช่วยดูแลแม่ร่วมกับสาวใช้อีก 1 คนที่จัางมาอยู่ประจำ ซึ่งแก้วจะไปกลับมีบางวันที่ค้างที่บ้านแต่ช่วงที่ตนไม่อยู่บ้านหลายวีนจะให้แก้วมานอนเป็นเพื่อนแม่ด้วย ซึ่งแก้วจะไม่ได้มาประจำทุกวัน เนื่องจากอ้างว่าตืดธุระส่วนตัวด้วยความที่ตนสงสัย ว่าแก้วจะเป็นคนร้ายที่ลักทองในตู้นิรภัยไปภายหลังจากแจ้งความแล้วตนจึงได้มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อหาตัวคนร้ายโดยได้โทรเรียหแก้วให้มาดูแลแม่และทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึิน จนกระทั่งคืนวันที่ 28 มิถุนายน ช่วงเวลาประมาณ 01:00 น. กล้องวงจรปิดจับภาพแก้วพยายามจะเปิดประตูบ้านเข้าไปในหลังที่เก็บทรัพย์สินอยู่ ซึ่งปกติบ้านหลังนี้จะไม่ให้ใครขึ้นมาถ้าไม่ได้รับอนุญาต แต่ประตูถูกล็อคไว้ทำให้แก้วไม่สามารถเข้าไปในบ้านได้ แล้วช่วงบ่ายวันต่อมาแก้วมีความพยายามจะเข้าไปในบ้านหลังนี้อีกโดยใช้ประตูด้านข้างซึ่งตนได้แกล้งเปิดไว้เพื่อต้องการล่อให้คนร้ายลงมือ ซึ่งเมื่อตนเฝ้ามองพฤติกรรมของแก้วจนเป็นที่แน่ข้ดแล้วว่าได้เข้าไปในตัวบ้านพร้อมกับหยิบกุญแจที่ตนซ่อนไว้เพื่อไปเปิดตู้นิรภัยที่เก็บทรัพย์สินตนจึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันทีโดยสามารถจับกุมแก้วที่กำลังลงมือก่อเหตุได้พร้อมหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิด ขณะลงมือ

จากนั้นตำรวจชุดสืบฯ สภ.บางสะพาน ก็ได้เข้ามาดำเนินการจับตัวไปเพื่อดำเนินคดี โดยได้มีการไปค้นยังห้องพักผู้ก่อเหตุได้ของกลางคืนมาแค่บางรายการได้แก่ โทรศัพท์ iPhone 16 และโทรศัพท์ที่ผู้ก่อเหตุใช้อยู่ในอีก 1 เครื่อง, รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า PCX ป้ายแดง 1 คัน ที่คนร้ายนำทองไปขายแล้วนำเงินมาแล้วก็แหวนกับสร้อยคอ 3 สลึง เงินสด 5,000 บาท และตั๋วจำนำทองอีก 2 บาทเป็นจำนวนเงิน 60,000 บาทตนได้ของกลางคืนมาเท่านี้จากทรัพย์สินที่หายไปร่วม 2 ล้านบาท

ซึ่งตนทราบมา่าผู้ต้องหามีการรับสารภาพว่าได้นำทองไปจริง และได้นำไปขายไปให้ร้านทองร้านนึงในบางสะพานทั้งหมด 7 ครั้ง ในช่วงเวลาภายในเดือนสองเดือนโดยได้ขายไปในราคาบาททละ 40,000 บาท ซึ่งที่ผ่านมาตนได้แต่สงสัยว่าทำไมตำรวจถึงไม่ได้มีการเรียกร้านทองมาสอบสวนได้แต่บอกว่าร้านทองซื้อขายสุจริตไม่สามารถจะเชื่อมโยงได้เพราะว่าร้านทองมีการค้ามีใบซื้อของขายของเก่ามีการราคาซื้อขายเป็นราคาที่พึงพอใจระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ซึ่งความเป็นจริงต่ำกว่าราคาตลาดมาก แต่ตำรวจก็บอกแค่ว่ามันไม่เชื่อมโยง ทั้งๆที่มีกหลักฐานการสนทนาในโทคศัพท์มือถือผู้ก่อเหตุว่ามีการพูดคุยกับทางพี่สาวเมื่อร้านทองโอนเงืนให้เนื่องจากใช้บัญชีของพี่สาวในการรับเงินโอนจากการขาย ทำให้ตนเองรู้สึกว่ามีความกังวลใจว่าคือเราเป็นผู้เสียหายเราเป็นคนไทยซึ่งผู้กระทำความผิดเป็นพม่า แต่ทำไมทรัภย์สินที่เราสูญไปทางตำรวจไม่ช่วยตืดตามกลับมาบ้าง นอกจากนี้ตนได้ฟังจากเพื่อนชาวเมียนม่าร์ของผู้ก่อเหตุเล่าให้ฟังว่า แก้วบอกว่าเค้ามีเงืน ยอมติดคุกไม่นานเดี๋ยวก็จะได้ออกมาใช้เงืนที่ขโมยไปมันทำให้รูัสึกหมดหวังกับตำรวจไทยและในฐานะผู้เสียหายเหมือนไม่ได้รับความยุตืธรรม ทองในตั๋วจำนำที่ได้จากผู้ก่อเหตุก็เป็นทรัพย์สินของเราแต่ตำรวจบอกให้เราไปไถ่ถอนเองทั้งๆที่มีหลักฐานและมีการไปดูทรัพย์สิตที่ร้านทองแล้วพร้อมกับทางตำรวจ

////////////////////////////// พิสิษฐ์ รื่นเกษม ข่าว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โทร 0643641644