กีฬาพาดหัวข่าว

อดิศักดิ์” สำเร็จหลักสูตรโค้ชระดับสูง UCI คนที่ 4 ของไทยต่อจากโค้ชตั้ม-โค้ชบาส-บีซ

อดิศักดิ์” สำเร็จหลักสูตรโค้ชระดับสูง UCI
คนที่ 4 ของไทยต่อจากโค้ชตั้ม-โค้ชบาส-บีซ

“โค้ชนพ” อดิศักดิ์ วรรณศรี เป็นคนที่ 4 ของประเทศไทย ที่สำเร็จการศึกษาหลักสูตรผู้ฝึกสอนจักรยานระดับสูง (Level 3) ของสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (UCI) ต่อจาก “โค้ชตั้ม” วิสุทธิ์ กสิยะพัท, “โค้ชบาส” ภุชงค์ ซ้ายอุดมศิลป์ และ “บีซ” จุฑาธิป มณีพันธุ์ สามารถเป็นผู้ฝึกสอนจักรยานได้ในทุกระดับทั่วโลก เจ้าตัวเผยพร้อมนำความรู้ความสามารถไปถ่ายทอดให้กับนักกีฬารุ่นหลัง เพื่อก้าวไปสู่ความเป็นเลิศและสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศชาติ ตามเจตนารมณ์ของ “เสธ.หมึก” ที่ทุ่มเทให้แก่วงการสองล้อไทยมาตลอดชีวิต

“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี รองประธานสมาพันธ์จักรยานแห่งเอเชีย (ACC), ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (ACF) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า ตามที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้ส่ง “โค้ชนพ” ร.ต.อ.อดิศักดิ์ วรรณศรี ผู้ฝึกสอนจักรยานทีมชาติไทย เข้ารับการอบรมหลักสูตรผู้ฝึกสอนจักรยานระดับสูง Level 3 ซึ่งเป็นหลักสูตรระดับสูงสุดของสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (UCI) เมื่อวันที่ 1-23 เมษายน ที่ผ่านมา ณ ศูนย์ฝึกจักรยานโลก (WCC) เมืองเอเกิล ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ พร้อมกับ “โค้ชบาส” พ.อ.อ.ภุชงค์ ซ้ายอุดมศิลป์ และ “บีซ” ร.อ.หญิง จุฑาธิป มณีพันธุ์ นักปั่นจักรยานทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ซึ่งก่อนหน้านี้ทาง WCC ได้แจ้งผลมาว่าภุชงค์และจุฑาธิป สอบผ่านหลักสูตรดังกล่าวอย่างครบถ้วนสามารถเป็นผู้ฝึกสอนจักรยานได้ทั่วโลก เป็นลำดับที่ 2 และ 3 ต่อจาก “โค้ชตั้ม” วิสุทธิ์ กสิยะพัท ที่สอบผ่านเป็นคนแรกเมื่อปี 2567

พลเอกเดชา กล่าวว่า ล่าสุดได้รับรายงานจาก ร.ต.อ.อดิศักดิ์ ว่าทางศูนย์ฝึกจักรยานโลกแจ้งข่าวดีมาว่าโค้ชอดิศักดิ์สามารถสอบผ่านหลักสูตรผู้ฝึกสอนจักรยานระดับสูง Level 3 เพิ่มอีก 1 คน พร้อมส่งใบประกาศนียบัตรรับรองการเป็นผู้ฝึกสอนระดับสูงสุดมาให้แก่โค้ชอดิศักดิ์เรียบร้อยแล้ว นับว่าเป็นคนที่ 4 ของประเทศไทยต่อจากโค้ชวิสุทธิ์, โค้ชภุชงค์ และจุฑาธิป เท่ากับว่าเวลานี้ประเทศไทยมีผู้ฝึกสอนจักรยานระดับสูง Level 3 ของ UCI รวมทั้งสิ้น 4 คนด้วยกัน นับว่าสมาคมกีฬาจักรยานฯ ประสบความสำเร็จในการพัฒนาบุคลากรด้านผู้ฝึกสอน ซึ่งเรามีนโยบายพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่องตามแผนยุทธศาสตร์ของสมาคมฯ ทั้งการพัฒนาผู้ฝึกสอน, การพัฒนาผู้ตัดสินตั้งแต่ระดับฝึกหัดไปจนถึงระดับนานาชาติ การพัฒนาช่างซ่อมจักรยานระดับมืออาชีพ รวมทั้งการพัฒนานักกีฬาเพื่อความเป็นเลิศตั้งแต่ระดับเยาวชนขึ้นไปถึงรุ่นประชาชน

พลเอกเดชา กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้สมาคมกีฬาจักรยานฯ ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกีฬาอาชีพ ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) จัดโครงการจัดอบรมพัฒนาผู้ตัดสินกีฬาจักรยานอาชีพประเภทถนน ระดับนานาชาติ หลักสูตร “Elite National Commissaire Course for Road” ณ โรงแรมวาสิฏฐี ซิตี้ จังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 11-15 กันยายน โดยมี มร.เวย์น โพมาริโอ วิทยากรชาวออสเตรเลีย จากสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (UCI) มาให้ความรู้แก่ผู้เข้าร่วมการอบรมจำนวน 20 คน หากมีผู้ฝึกตัดสินคนใดสอบผ่านหลักสูตรดังกล่าวก็จะก้าวเป็นผู้ตัดสินระดับ Elite หรือผู้ตัดสินระดับชาติสูงสุด สามารถตัดสินการแข่งขันระดับนานาชาติที่จัดการแข่งขันในประเทศไทยได้ และเมื่อสะสมประสบการณ์ได้ระดับหนึ่ง สมาคมฯ ก็จะสนับสนุนให้เข้ารับการอบรมในระดับที่สูงขึ้นเพื่อเป็นผู้ตัดสินระดับนานาชาติ หรือระดับ International Commissaire ต่อไป

“เสธ.หมึก” กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันนี้ประเทศไทยมีผู้ตัดสินนานาชาติ2 คน ได้แก่ นายณัฐพงศ์ โลหิตนาวี เป็นผู้ตัดสินนานาชาติประเภทถนนและลู่ และ นายขัตติยะ ศรีโสดา ในประเภทบีเอ็มเอ็กซ์ ล่าสุด สหพันธ์จักรยานนานาชาติ (UCI) ได้แต่งตั้งนายขัตติยะ ให้ไปปฏิบัติหน้าที่ในการแข่งขันจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ชิงแชมป์เอเชีย 2025 ที่เมืองนาโงย่า ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 1-2 พฤศจิกายน นอกจากนี้นายขัตติยะก็จะทำหน้าที่เป็นผู้ตัดสินนานาชาติประเภทบีเอ็มเอ็กซ์และเสือภูเขาในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ปลายปีนี้ด้วย ส่วนนายณัฐพงศ์ ก็ได้รับการแต่งตั้งจาก UCI ให้ไปทำหน้าที่การแข่งขันจักรยานประเภทถนนรายการ Oita Urban Classic ที่เมืองโออิตะ ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 4-5 ตุลาคม และการแข่งขันจักรยานประเภทถนนในการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยน ยูธเกมส์ ครั้งที่ 3 ที่ประเทศบาห์เรน ระหว่างวันที่ 22-31 ตุลาคม รวมทั้งเป็นผู้ตัดสินในกีฬาซีเกมส์ด้วย

“อย่างไรก็ตาม ปัญหาและอุปสรรคของผู้ตัดสินและผู้ฝึกสอนของไทยคือเรื่องการใช้ภาษาอังกฤษ เนื่องจากการเรียนหลักสูตรต่าง ๆ เพื่อจะพัฒนาต่อยอดไปสู่ในระดับที่สูงขึ้นต้องใช้ภาษาอังกฤษในการเรียนและการสอบเป็นหลัก หากไม่เข้าใจเนื้อหาการเรียนอย่างลึกซึ่งก็ยากที่จะสอบผ่าน ผมจึงได้ย้ำเตือนไปยังผู้ตัดสิน และผู้ฝึกสอนที่ผ่านการอบรมระดับต่าง ๆ ที่สมาคมฯ จัดอบรมไปแล้วว่าขอให้ฝึกฝนภาษาอังกฤษให้มากเป็นพิเศษ เพื่ออนาคตในการก้าวไปสู่ระดับนานาชาติต่อไป” พลเอกเดชา กล่าว

ด้าน “โค้ชนพ” ร.ต.อ.อดิศักดิ์ วรรณศรี เปิดเผยว่า “ต้องขอขอบคุณท่านพลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานฯ ที่ให้โอกาสและเล็งเห็นความรู้ความสามารถของผม ให้การสนับสนุนไปเรียนหลักสูตรผู้ฝึกสอนจักรยานระดับสูง Level 3 ทำให้ผมได้รับความรู้ใหม่ ๆ เพิ่มมากขึ้น ผมจะขอนำความรู้ที่ได้รับมาพัฒนาวงการกีฬาจักรยานไทยให้เกิดประโยชน์ต่อนักกีฬารุ่นหลัง และจะตั้งใจทุ่มเทพัฒนาวงการจักรยานไทยสู่ความเป็นเลิศสู่ผู้นำเอเชียและก้าวสู่ระดับโลกเพื่อสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศชาติต่อไป ตามเจตนารมณ์ของท่านนายกสมาคมฯ ที่ได้ทุ่มเทพลังกายพลังใจเพื่อวงการกีฬาจักรยานไทยมาตลอดชีวิต”.