กีฬาพาดหัวข่าว

สองล้อส่ง 3 นักปั่นทีมชาติ สู้ศึกชิงแชมป์โลกที่รวันดา

สองล้อส่ง 3 นักปั่นทีมชาติ
สู้ศึกชิงแชมป์โลกที่รวันดา

“สองล้อ” ส่ง “พีระพล-จูดาห์-ธนภัทร” 3 นักปั่นทีมชาติไทยสู้ศึกใหญ่จักรยานประเภทถนนชิงแชมป์โลก UCI Road World Championships 2025 ที่กรุงคิกาลี ประเทศรวันดา โดยสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (UCI) ได้ให้โควตาแก่สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ส่งนักกีฬาไปชิงชัยเป็นปีที่ 10 ติดต่อกัน จากผลงานอันยอดเยี่ยมคะแนนสะสมของ UCI ติดอันดับ 41 ของโลก ขณะที่ “เสธ.หมึก” มอบหมายให้ พลตรี นพ.ภูษิต เฟื่องฟู อุปนายกสมาคมฯ พร้อมฝ่ายต่างประเทศไปร่วมประชุมใหญ่สามัญ UCI Congress 2025 โดยมีวาระสำคัญคือการเลือกตั้งประธาน UCI คนใหม่

“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี รองประธานสมาพันธ์จักรยานแห่งเอเชีย (ACC), ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (ACF) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า จากการที่สหพันธ์จักรยานนานาชาติ (UCI) ได้ให้โควตาสมาคมกีฬาจักรยานฯ ส่งนักปั่นทีมชาติไทยไปแข่งขันจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์โลก UCI Road World Championships 2025 ที่กรุงคิกาลี ประเทศรวันดา ระหว่างวันที่ 22-28 กันยายน ซึ่งสมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้โควตาจากการทำผลงานยอดเยี่ยมมีคะแนนสะสมประเทศของ UCI ติดอันดับ 41 ของโลก เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยสมาคมฯ จะส่งนักปั่นทีมชาติไทยจำนวน 3 คนใน 3 รุ่นการแข่งขันไปร่วมประชันฝีเท้ากับนักกีฬาจักรยานชั้นนำจากทั่วโลก 108 ชาติ ซึ่งนับเป็นปีที่ 10 ติดต่อกันที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้โควตาส่งนักกีฬาไปแข่งขันรายการนี้

พลเอกเดชา กล่าวว่า คณะนักกีฬาทีมชาติไทยประกอบด้วย พ.อ.อ. พีระพล ชาวเชียงขวาง นักกีฬารุ่นประชาชนชาย และนายธนภัทร สกุลแตร นักกีฬาในรุ่นเยาวชนชาย ซึ่งได้เดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อเช้าวันที่ 23 กันยายน ที่ผ่านมา โดยมี “โค้ชตั้ม” พ.อ.อ.วิสุทธิ์ กสิยะพัท ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการทีมและผู้ฝึกสอน ส่วน นายจูดาห์ ทอมป์สัน นักกีฬารุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี จะเดินทางจากประเทศสหรัฐอเมริกาไปสมทบที่กรุงคิกาลี ในวันที่ 24 กันยายน

นายกสองล้อไทย กล่าวอีกว่า สำหรับกำหนดการแข่งขันของนักปั่นแต่ละคนจะเป็นดังนี้ จูดาห์ กับ ธนภัทร จะลงแข่งขันวันที่ 26 กันยายน โดยธนภัทร จะแข่งขันในช่วงเช้า ออกสตาร์ทเวลา 08.00 น. ตรงกับเวลาเมืองไทย 13.00 น. ระยะทาง 119.3 กม. มีนักปั่นจากทั่วโลกเข้าประชันฝีเท้า 170 คน ในขณะที่จูดาห์ จะลงแข่งขันในช่วงบ่าย ออกสตาร์ทเวลา 12.00 น. ตรงกับเวลาเมืองไทย 17.00 น. ระยะทาง 164.6 กม. มีนักกีฬารวม 147 คน โดยทั้งสองรุ่นจะใช้เส้นทางเซอร์กิตออกสตาร์ทและเข้าเส้นชัย ที่คิกาลี คอนเวนชั่นเซนเตอร์ รอบละ 15.1 กม. ส่วนพีระพล จะลงแข่งขันในวันสุดท้ายของศึกชิงแชมป์โลก 28 กันยายน ออกสตาร์ทเวลา 09.45 น. ตรงกับเวลาเมืองไทย 14.45 น. ใช้เส้นทางในเซอร์กิตคิกาลี คอนเวนชั่นเซนเตอร์ 9 รอบ จากนั้นออกเซอร์กิตใหญ่ 45 กม. และเข้าในเซอร์กิตคิกาลี คอนเวนชั่นเซนเตอร์อีก 6 รอบ ระยะทางรวม 267.5 กม. โดยจะมีนักปั่นที่ผ่านควอลิฟายเข้าร่วมชิงชัยกันถึง 218 คน

พลเอกเดชา กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของเส้นทางแข่งขันจากที่โค้ชวิสุทธิ์ได้หาข้อมูลมาถือว่ามีความยากมาก เนื่องจากมีการไต่ขึ้นเขาระดับกว่าสูงเกือบ 5,000 เมตร รวมทั้งสภาพอากาศที่มีความชื้นสูงก็มีผลต่อระบบหายใจของนักกีฬา อย่างไรก็ตาม สมาคมกีฬาจักรยานฯ ต้องส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขัน เนื่องจากสหพันธ์จักรยานนานาชาติ จะพิจารณาว่าการที่สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ มีส่วนร่วมกิจกรรมระดับโลกของ UCI ก็จะส่งผลถึงการประเมินการแข่งขันจักรยานชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานฯ ประจำปี 2569 ด้วย หากเราส่งแข่งขันจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์โลก 2025 ปีหน้าการแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทยฯ ก็จะถูกจัดให้อยู่ใน Class A แต่ถ้าหากสมาคมฯ ไม่ส่งแข่งขันก็จะถูกลดระดับการแข่งขันลงไปอยู่ Class B คะแนนสะสมอันดับโลกจะหายไปครึ่งหนึ่ง ซึ่งจะมีผลต่อการสะสมคะแนนคัดเลือกนักกีฬาไปโอลิมปิกเกมส์ 2028 ที่นครลอสแอนเจลิส

“นอกเหนือจากการแข่งขันจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์โลก 2025 สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ยังส่งคณะผู้บริหารเข้าร่วมการประชุมใหญ่สามัญ UCI Congress 2025 ที่จะจัดขึ้นที่คิกาลี คอนเวนชั่นเซนเตอร์ ในวันที่ 25 กันยายน ประกอบด้วย พลตรี นายแพทย์ ภูษิต เฟื่องฟู อุปนายกสมาคมฯ ฝ่ายแพทย์ เป็นหัวหน้าคณะ น.ส. มณีรัตน์ รุ่งเรืองศักดิ์ อุปนายกสมาคมฯ และฝ่ายต่างประเทศ และนายขัตติยะ ศรีโสดา เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างประเทศเป็นผู้แทนสมาคมกีฬาจักรยานฯ เข้าร่วมการประชุม ซึ่งในการประชุม UCI Congress 2025 ครั้งนี้ มีวาระสำคัญที่สุดก็คือการเลือกตั้งประธานสหพันธ์จักรยานนานาชาติเข้าปฏิบัติหน้าที่ในอีกสี่ปีข้างหน้า โดยตัวเต็งยังคงเป็นมร.เดวิด ลาปาร์เตียน ประธานคนปัจจุบันที่น่าจะได้รับความไว้วางใจจากชาติสมาชิกให้ดำรงตำแหน่งต่อไปอีกหนึ่งสมัย” พลเอกเดชา กล่าวทิ้งท้าย.