ตม. แท็กทีม ป.ป.ส. ปิดเกมส์พ่อค้ายาข้ามชาติผิวสี หนีหมายจับตำรวจสากล ลอบส่งยาเสพติดเกือบ 20 กิโล* *จำหน่ายในเกาหลีใต้ บุกค้นห้องพบยาเสพติด พ่วงอาวุธปืน 3 กระบอกเครื่องกระสุนครบมือซุกซ่อนทั่วห้อง*
ตม. แท็กทีม ป.ป.ส. ปิดเกมส์พ่อค้ายาข้ามชาติผิวสี หนีหมายจับตำรวจสากล ลอบส่งยาเสพติดเกือบ 20 กิโล*
*จำหน่ายในเกาหลีใต้ บุกค้นห้องพบยาเสพติด พ่วงอาวุธปืน 3 กระบอกเครื่องกระสุนครบมือซุกซ่อนทั่วห้อง*
“บิ๊กปู” พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. ประกาศชัด สั่งทุกหน่วยในสังกัดเน้นปราบปรามคนต่างด้าวที่กระทำความผิดกฎหมายอาญาในทุกรูปแบบอาชญากรรม โดยเฉพาะอาชญากรรมที่มีลักษณะการกระทำความผิดข้ามชาติ ซับซ้อน เป็นรูปแบบองค์กร โดยได้สั่งการมอบหมายให้ พล.ต.ต.ปรัชญา ประสานสุข และ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. ควบคุมอำนวยการปฏิบัติให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับพฤติการณ์ที่เป็นที่มาของการจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจาก กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์ ผบก.ตม.1, พ.ต.อ.ปฏิญญา จีรชนาสิน รอง ผบก.ตม.๑ ,พ.ต.อ.พลสิทธิ์ สุทธิอาจ ผกก.สืบสวน บก.ตม.1 ได้รับการประสานความร่วมมือจาก สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) โดยการอำนวยการของ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมลเลขาธิการ ป.ป.ส. ,นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด นายไกรวุฒิ มณีรัตน์ ผู้อำนวยการส่วนประสานการปราบปรามยาเสพติดระหว่างประเทศ เนื่องจากได้ทราบข้อมูลเบาะแสจากการปฏิบัติการข่าว เกี่ยวกับบุคคลต่างด้าวผิวสี ชื่อนายเอมมานูเอล แอ๊บโบ (Emmanuelle Abbo) นามสมมติ อายุ 40 ปี ซึ่งเชื่อว่าอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด พักอาศัยอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่งย่านประตูน้ำ และมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด จึงได้ร่วมกันทำการสืบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย จากการสืบสวนโดยตรวจสอบในระบบสารสนเทศของ สตม. พบว่า นายเอมมานูเอลฯ ซึ่งเป็นเป้าหมายในการสืบสวน เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรครั้งล่าสุดด้วย ประเภทวีซ่านักท่องเที่ยว(๖๐วัน) แต่การอนุญาตสิ้นสุดลงแล้ว นอกจากนี้ยังเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับตำรวจสากล ในฐานะพ่อค้ายาเสพติดข้ามชาติ ลอบส่งยาเสพติดน้ำหนัก 19 กิโลกรัม ผ่านบริษัทขนส่งไปจำหน่ายในเกาหลีใต้ หลบหนีหมายจับโดยซ่อนตัวอยู่ในกรุงเทพมหานครชั้นในมาเป็นเวลากว่า 1 ปี
วันที่ 30 กันยายน 2568 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมประกอบด้วย พ.ต.ท.สุริยะ พ่วงสมบัติ รอง ผกก.สืบสวน บก.ตม.1 พ.ต.ท.ทวีทรัพย์ ชัยภูมิ, พ.ต.ท.ธงไทย ไพเราะ สว.กก.สืบสวน บก.ตม.1 นายอนุสวัสดิ์ ศุขสวัสดิ ณ อยุธยา ,น.ส.พิชญา มณีนิล ,น.ส.สุธินี เตชาวงศ์ เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. จึงได้วางแผนสนธิกำลังในการดำเนินการตามกฎหมายกับ นายเอมมานูเอลฯ โดยนำกำลังลงพื้นที่ วางกำลังสังเกตุการรอบโรงแรม จนกระทั่งเวลาประมาณ ๑๗.๓๐ น. จึงพบคนต่างด้าวรูปพรรณสัณฐานตรงกับ นายเอมมานูเอลฯ เดินอยู่ริมถนนเพชรบุรี ห่างจากที่โรงแรมที่พักประมาณ 50 เมตร เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตนเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายพร้อมทั้งแสดงบัตรประจำตัวให้ดู สอบถามชื่อเพื่อยืนยันตัวตน ซึ่งในเบื้องต้นนั้น นายเอมมานูเอลฯ ซึ่งสามารถพูดภาษาไทยได้คล่องแคล่ว รับแต่โดยดีว่าตนเองคือคนเดียวกับบุคคลตามหมายจับตำรวจสากลดังกล่าวจริง และอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด โดยอยู่ในเมืองไทยมาตั้งแต่ปี 2559 เจ้าหน้าที่สอบถามว่ายังคงมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือไม่ แต่เจ้าตัวกลับปฏิเสธเสียงแข็ง เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ จึงขยายผลเข้าตรวจสอบภายในห้องพักของนายเอมมานูเอลฯ โดยความบริสุทธิ์ใจของนายเอมมานูเอลฯ และได้แจ้งให้ผู้จัดการโรงแรมทราบถึงเหตุแห่งการตรวจค้น เมื่อนายเอมมานูเอลฯ ใช้คีย์การ์ดแตะเข้าไปในห้อง เจ้าหน้าที่พบอุปกรณ์เสพยาทันทีบริเวณชั้นวางทีวี จึงได้ควบคุมตัวนายเอมมานูเอลฯ ให้อยู่ในความสงบ และลงมือตรวจค้นโดยละเอียดทีละจุดต่อหน้า นายเอมมานูเอลฯ และพยานผู้ดูแลโรงแรมผลการตรวจค้นเจ้าหน้าที่พบ อาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก มีเลขทะเบียนซ่อนอยู่ในซองหนังพกใน พบปืนแบลงค์กันดัดแปลงลำกล้อง พร้อมชุดลั่นไกมีเข็มแทงชนวน อีก 2 กระบอกพร้อมแม็กกาซีนดัดแปลงสำหรับเครื่องกระสุนขนาด .38 ซ่อนอยู่ในกล่องเครื่องมือ พร้อมเครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม., ขนาด 11 มม. และขนาด .22 นิ้ว รวมเกือบ 80 นัด โดยมีทั้งที่บรรจุในแม็กกาซีนขึ้นลำพร้อมใช้ และซุกซ่อนตามจุดต่างๆในห้องพัก นอกจากนี้ในกระเป๋าและถุงต่างๆที่อยู่ภายในห้องเจ้าหน้าที่ยังพบ เมทแอมเฟตามีน (ยาไอซ์) น้ำหนัก 2 กรัมเศษ ยาอีหรือ ๓,๔ เมทิลีนไดออกซีเมทแอมเฟตามีนจำนวน 1 ซอง น้ำหนัก 1 กรัม เมทแอมเฟตามีนสีเขียวมิ้นอีกจำนวน 1 เม็ด
โดย นายเอมมานูเอลฯ ให้การว่า อาวุธปืนพกสั้นขนาดต่างๆ ที่พบไม่ใช่อาวุธปืนของตนเอง เป็นของเพื่อนคนไทยี่ได้มาจำนำไว้กับตน ส่วนยาเสพติดนั้นไม่ใช่ของตนเอง แต่เป็นของเพื่อนคนไทยอีกกลุ่มที่เข้ามาใช้ห้องของตนเป็นสถานที่มั่วสุมเสพยา และได้ลืมนำกลับไปด้วย ชุดจับกุมจึงได้พาตัวนายเอมมานูเอลฯ ไปตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดโดยละเอียดที่โรงพยาบาลผลการตรวจสอบพบว่าผลเป็นบวก(Positive) พบสารเมทแอมเฟตามีนในปัสสาวะของผู้ถูกจับ ซึ่งผู้ถูกจับยอมรับว่าตนเคยเสพยาไอซ์จริง แต่ไม่ได้เสพมา 1 วันแล้ว เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ถูกจับว่า “เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , มียาเสพติดให้โทษประเภท ๑ ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (เมทแอมเฟตามีนหรือยาไอซ์)” และเจ้าหน้าที่ได้แจ้งสิทธิ์ของผู้ถูกจับให้ทราบแล้ว โดย ผู้ถูกจับสามารถรับฟังภาษาไทยได้เป็นอย่างดี ควบคุมตัวส่ง พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป