ทหารทุ่มงบกว่า150ล้านติดกล้องอินฟาเรดริมพรมแดนแม่น้ำโก-ลก ป้องกันโจรใต้ใช้เป็นเส้นทางผ่านเข้าออกก่อเหตุ พร้อมส่ง 3 ฝ่ายสลับปรับเปลี่ยนปฏิบัติหน้าที่ รปภ.บิ๊กซี
นราธิวาส/ข่าว-ฮามีดะห์
ทหารทุ่มงบกว่า150ล้านติดกล้องอินฟาเรดริมพรมแดนแม่น้ำโก-ลก ป้องกันโจรใต้ใช้เป็นเส้นทางผ่านเข้าออกก่อเหตุ พร้อมส่ง 3 ฝ่ายสลับปรับเปลี่ยนปฏิบัติหน้าที่ รปภ.บิ๊กซี
สำหรับความเคลื่อนไหวในการสกัดกั้นกลุ่มสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรง ใช้ช่องทางข้ามธรรมชาติในการลักลอบเข้า ออกระหว่างพื้นที่เมืองรันตูปันยัง รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซียกับพื้นที่ริมพรมแดนด้าน จ.นราธิวาส หลังจากก่อนเหตุร้ายแล้วหลบหนีไปกบดานนั้น
ล่าสุดจากการตระเวนตรวจสอบช่องทางข้ามจุดผ่อนปรนทั้ง 6 จุด คือ ท่าข้ามท่ากอไผ่, ท่าโรงเลื่อย, ท่าประปา, ท่าโต๊ะอาแว, ท่าเจ๊ะกาเซ็งและท่าชมพู เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก บังเอิญได้พบกับ ร.อ.ธนพนธ์ พันธ์โภชน์ ผู้บังคับกองร้อยป้องกันชายแดนที่ 5 กำลังตระเวนตรวจสอบผู้ใต้บังคับบัญชาที่ถูกส่งตัวมาปฏิบัติหน้าที่ทั้ง 6 จุดช่องทางข้าม เพื่อคอยให้การตรวจสอบบุคคลที่เดินทางเข้าออก ระหว่าง 2 ฟากฝั่ง ที่มีการผ่อนปรนเป็นช่วงๆ เพื่อให้ประชาชนสามารถดำรงวิถีชีวิตได้ตามปกติ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ประกันความปลอดภัยหากถูกทางการประเทศมาเลเซียจับกุม ตามที่ทางการประเทศมาเลเซียได้ติดประกาศแจ้งเตือนมาเป็นระยะเวลาเกือบ 1 ปีที่ผ่านมา
และได้ถูกโอกาสสอบถามการแก้ไขปัญหาระยะยาว เรื่องการสกัดกั้นกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงจะใช้ช่องทางข้ามธรรมชาติ เป็นเส้นทางเข้าออกระหว่างประเทศทั้งแฝงตัวข้ามมาก่อเหตุรวมทั้งหลังก่อเหตุแล้วเสร็จ จะใช้เป็นเส้นทางหลบหนีเข้าประเทศมาเลเซีย ซึ่งในเรื่องดังกล่าวล่าสุด ทราบว่า ทางการได้จัดสรรงบประมาณกว่า 150 ล้านบาท ในการติดตั้งกล้องวงจรปิดเป็นช่วง โดยแยกเป็นกล้องวงจรปิดทั่วไปและเป็นกล้องวงจรปิดระบบอินฟาเรด ซึ่งแต่ละจุดจะพิจารณาถึงความเหมาะสมว่า จุดนั้นจุดนี้ควรติดกล้องวงจรแบบใด ซึ่งหลังติดตั้งแล้วจะมีเจ้าหน้าที่ทหารดูแลตลอด 24 ชั่วโมง และผลพวงที่ได้คาดการว่าสามารถเป็นการสกักกั้นยาเสพติด สิ่งผิดกฎหมายในทางอ้อมครั้งนี้ด้วย
นอกจากนี้แล้วยังได้ถือโอกาสติดตาม ร.อ.ธนพนธ์ ผู้บังคับกองร้อยป้องกันชายแดนที่ 5 เดินทางไปยังห้างบิ๊กซีสาขาสุไหงโก-ลก เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจพนักงานร้านทองเยาวราชกรุงเทพ ซึ่งได้เปิดร้านตั้งแต่วันที่ 9 ต.ค.68 ที่ผ่านมา แต่ยังไม่ได้นำทองรูปพรรณมาวางจำหน่าย แต่เป็นการเปิดโอกาสให้ลูกค้าที่นำทองรูปพรรณมาจำนำกับทางร้าน ในการนำเอกสารหลักฐานที่ทางร้านออกให้มาตรวจสอบ ว่าทองรูปพรรณที่นำมาจำนำกับทางร้าน ได้ถูกคนร้ายบุกปล้นไปจำนวน 540 บาทนั้นซึ่งทองรูปพรรณที่ลูกค้าเอามาจำนำได้ถูกคนร้ายเอาไปด้วยหรือไม่ หากพบว่าถูกโจรบุกปล้นนำไปด้วยทางร้านจะชดเชยค่าเสียหายให้ทุกบาททุกสตางค์
ในส่วนของป้อมบังเกอร์กันกระสุนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำมาติดตั้งไว้บริเวณปากทางเข้าห้างบิ๊กซี ตั้งแต่วันที่ 9 ต.ค.68 ที่ผ่านมา เพื่อให้การรักษาความปลอดภัยห้าง และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนทั้งชาวไทยและชาวมาเลเซียนั้น ล่าสุด ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สุไหงโก-ลก เจ้าหน้าที่ทหารชุดเฉพาะกิจนาวิกโยธิน 33 และกองอาสารักษาดินแดน อ.สุไหงโก-ลก ได้สลับปรับเปลี่ยนกันมาปฏิบัติหน้าที่
ส่วนทางด้านคดีนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมประจักษ์พยานหลักฐาน และได้ออกหมายจับกลุ่มคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุแล้ว 2 คน ตั้งแต่วันที่ 9 ต.ค.68 เท่านั้น ยังไม่ได้รับการเปิดเผยหรือยืนยันว่าได้มีการออกหมายจับคนร้ายเพิ่มเติมหรือไม่อย่างไร
/////////////////////////////// 13 ตุลาคม 2568