Uncategorizedข่าวทั่วไปพาดหัวข่าว

ตราด-ททท. ตราด เปิดวิสัยทัศน์ TRAT THE NEW EXPERIENCE ประกาศ 5 โครงการเรือธง ปฏิวัติการตลาดเชิงรุก เปลี่ยนตราดสู่ ที่เที่ยวได้ตลอดปี รับ นทท.คุณภาพ

ตราด-ททท. ตราด เปิดวิสัยทัศน์ TRAT THE NEW EXPERIENCE ประกาศ 5 โครงการเรือธง ปฏิวัติการตลาดเชิงรุก เปลี่ยนตราดสู่ ที่เที่ยวได้ตลอดปี รับ นทท.คุณภาพ

ที่ห้องประชุมโรงแรมตราดซิตี้ จ.ตราด เมิ่อเวลา 11.00 น. 22 ตค.68 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานตราด เปิดข่าวใหญ่ประจำปี เปิดแผนการตลาดและทิศทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดตราด ประจำปี 2569 โดยประกาศทิศทางใหม่มุ่งสู่ “TRAT THE NEW EXPERIENCE” พร้อมนำเสนอ 5 โครงการเรือธง ให้นักท่องเที่ยวคุณภาพเดินทางมาเยือนตราดได้ “ตลอดทั้งปี” และมองหา “ประสบการณ์ที่ลึกซึ้งและคุ้มค่าที่สุด” ว่าที่ ร.ต.กรกฎ โอภาส ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานตราด เปิดเผยว่า “โจทย์ใหญ่ปี 2569 คือการทำให้จังหวัดตราด เป็นจุดหมายที่นักท่องเที่ยวคุณภาพอยากมาเยือน ‘ตลอดทั้งปี’ ไม่ใช่แค่ช่วงฤดูท่องเที่ยว จึงได้ออกแบบแผนการตลาดเชิงรุกที่เน้นการสร้าง ‘ผลิตภัณฑ์ทางการท่องเที่ยวใหม่ๆ’ และสร้าง ‘เหตุผลใหม่ๆ’ ให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาตราดบ่อยขึ้น พักนานขึ้น และมั่นใจว่า 5 โครงการนี้จะสร้างมิติใหม่ให้กับรายได้และคุณภาพการท่องเที่ยวของจังหวัดตราดอย่างยั่งยืน” โดย 5 โครงการหลัก ประกอบด้วย 1. โครงการ “Trat Family Kitchen: The Whole Year Story Must Taste หรือ ครัวตราดความอร่อยตลอดปีที่ต้องลอง” จากการใช้กลยุทธ์ Product Approach เปลี่ยนจากการขาย “สถานที่” มาเป็นการขาย “ประสบการณ์” ผ่านสินค้าหลักคือ “อาหารและวัฒนธรรมการกิน” ของจังหวัดตราด โดยจะสร้างเรื่องราวให้น่าสนใจตลอดทั้งปี ทั้งเรื่องผลไม้, เรื่องอาหารทะเล, และเรื่องอาหารพื้นถิ่น เพื่อให้ตราดมี “ของดี” ให้นักท่องเที่ยวมาลิ้มลองและสัมผัสเสมอ โดยเน้น Area-Based Marketing กระจายกิจกรรมและสร้าง “เส้นทางสายอร่อย” ไปทั่วทั้งจังหวัด เพื่อกระจายรายได้สู่ผู้ประกอบการในทุกพื้นที่ พร้อมจัด Event Marketing ตามฤดูกาล เช่น กิจกรรม Mini Cooking Class ในกลุ่มเป้าหมายคือ กลุ่ม Food Lover และกลุ่มครอบครัวยุคใหม่


2. โครงการ “ลองเที่ยวตราดสไตล์ยั่งยืน”โครงการนี้คือหัวใจสำคัญในการทำให้ตราดเป็นจุดหมายปลายทางที่ “เที่ยวได้ทั้งปี” โดยใช้กลยุทธ์ “กระจายการเดินทางของนักท่องเที่ยวจากเมืองหลัก สู่เมืองน่าเที่ยว” ทั่วทั้งจังหวัด ด้วยการเปลี่ยน ‘ของดี’ ที่มีอยู่ในชุมชน ให้กลายเป็น ‘สินค้าทางการท่องเที่ยว’ เพื่อตอบสนองกลุ่ม Food Lover และ Millennial Family ชูจุดแข็ง 3 ด้านหลัก คือ ด้านอาหาร ด้วยการ สร้าง “เส้นทางสายกิน” นำเสนอเมนูท้องถิ่นและวัตถุดิบตามฤดูกาล ด้านวัฒนธรรมและประเพณี และสนับสนุนการสร้าง “Workshop และกิจกรรมท่องเที่ยวโดยชุมชน” ที่ให้นักท่องเที่ยวได้ลงมือทำและเรียนรู้วิถีชีวิตจริง และด้านความเชื่อและศรัทธา พัฒนา “เส้นทางท่องเที่ยวสายศรัทธา” หรือ “สายมู” เชื่อมโยงวัดและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ
3. โครงการ “Trat Workation: วันทำงานคือวันเที่ยว” (โครงการเรือธงสำหรับวันธรรมดา)
โครงการนี้ ออกแบบมาเพื่อปลดล็อกศักยภาพของ “วันธรรมดา” (วันจันทร์ถึงศุกร์) ให้กลายเป็นโอกาสทางธุรกิจครั้งสำคัญ โดยเปลี่ยนภาพจำของตราดให้เป็น “ออฟฟิศที่สร้างแรงบันดาลใจได้ดีที่สุดในประเทศ”
ใช้กลยุทธ์: ทำการตลาดเจาะตรงไปยังกลุ่ม Gen Y ทั่วประเทศ ชูจุดเด่นว่าการมาทำงานที่ตราดคือการ Upgrade คุณภาพชีวิต ควบคู่ไปกับการนำเสนอ ‘ทริปสั้นๆ สำหรับชาร์จพลัง’ ที่สามารถทำได้ในช่วงพัก เช่น ทริปพายคายัคหลังประชุมออนไลน์, โยคะยามเช้าก่อนเริ่มงาน, หรือทริปชิมอาหารพื้นถิ่นในช่วงพักกลางวัน เป้าหมายคือ สร้างลูกค้ากลุ่มใหม่ในวันจันทร์ถึงศุกร์ เพิ่มอัตราการเข้าพัก และสร้างรายได้ที่มั่นคงตลอดสัปดาห์


4. โครงการ “TRAT’S GREEN LUXE สัมผัสหรู เคียงคู่วิถีถิ่น” เพื่อตอบสนองกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพสูงที่มีกำลังซื้อและมองหา “ประสบการณ์ที่คุ้มค่าที่สุด” ททท. สำนักงานตราด จะมุ่งเจาะตลาดนี้อย่างเต็มรูปแบบผ่านแนวคิดการตลาดหลักคือ “การเพิ่มค่าใช้จ่ายต่อทริป” แนวคิด คือ ยกระดับตราดให้เป็นจุดหมายปลายทางของ “Luxury + Experience Style” ที่แท้จริง การดำเนินงานด้วยการ นำสินค้าและบริการท่องเที่ยวมูลค่าสูง (Thailand Premium) และผู้ประกอบการที่ได้รับมาตรฐานความยั่งยืน (เช่น TTA, STGs STAR, หรือโรงแรม CF-Hotels) มาสร้างสรรค์เป็นแพ็กเกจท่องเที่ยวชิ้นเอก อาทิ มื้อค่ำส่วนตัวในสวนผลไม้ออร์แกนิก หรือทริปดำน้ำในมุมลับเฉพาะกลุ่ม โดยมีเป้าหมาย คือ เปลี่ยนตราดให้เป็นจุดหมายที่นักท่องเที่ยวคุณภาพต้องมาเยือนเพื่อ “ให้รางวัลกับชีวิต”
5. โครงการ “TRAT VIBES: เสน่ห์ศิลป์ถิ่นตราด” โครงการนี้มุ่งสร้าง “ประสบการณ์ที่ลึกซึ้ง” และเรื่องราวที่น่าจดจำกลับไปให้กับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะกลุ่มคุณภาพอย่าง Gen Y โดยหัวใจของโครงการ:คือ ทำงานร่วมกับชุมชนเพื่อค้นหาและดึง “ของดี” ที่เป็นอัตลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็น สูตรอาหารพื้นถิ่น, งานศิลปะและงานคราฟต์, ดนตรี, หรือเรื่องราววัฒนธรรม แล้วนำสิ่งเหล่านี้มาพัฒนาและออกแบบให้เป็น “กิจกรรมและผลิตภัณฑ์ทางการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์” ที่มีคุณภาพและมีมาตรฐาน “ทั้ง 5 โครงการนี้จะร่วมทำงานประสานกันเพื่อสร้างความมั่นใจว่า จังหวัดตราดจะสามารถบรรลุเป้าหมายในการเติบโตอย่างมีคุณภาพและมีความยั่งยืน โดยมีชุมชนเป็นศูนย์กลางของการพัฒนาอย่างแท้จริง”

/ภาพ/ข่าว วิเชียร ม่วงสี ผู้สื่อข่าวสมาคมคนข่าวภูธร จ.ตราด