รอดหวุดหวิด โชเฟอร์รถพ่วงแขวนพระเก่าพ่อให้ หลังรถเสียหลักชนเสาไฟหัวรถหลุดขาดพังยับแต่เจ้าตัวไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
รอดหวุดหวิด โชเฟอร์รถพ่วงแขวนพระเก่าพ่อให้ หลังรถเสียหลักชนเสาไฟหัวรถหลุดขาดพังยับแต่เจ้าตัวไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 31 มีนาคม 2568 พ.ต.ท.รุ่งอรุณ ยั่งยืน สารวัตรสอบสวน สภ.สำโรงใต้ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วงเสียหลัก ชนเสาไฟข้างทาง บริเวณถนนเลียบด่วนบางหญ้าแพรก หมู่ 18 ต. บางหญ้าแพรก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงได้ประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู พร้อมอุปกรณ์ตัดถ่างเดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกพ่วง ยี่ห้อ ฮีโน่ สีขาว ทะเบียน หัวลาก 60-1788 กรุงเทพมหานคร หางพ่วง 60- 1789 กรุงเทพมหานคร จอดขวางถนนอยู่ สภาพห้องโดยสารพับมาด้านหน้าได้รับความเสียหาย โดยมี นาย เกรียงไกร สระน้ำอายุ 25 ปี ชาว อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ ยืนรอให้การให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และยังอยู่ในอาการตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ไม่ได้รับบาดเจ็บ บริเวณที่เกิดเหตุยังพบมีเสาไฟฟ้าส่องแสงสว่างเสียหายจำนวน 1 ต้น แท่นแบริเออร์ปูนของทางด่วนกาญจนาภิเษกได้รับความเสียหายจำนวน 2 แท่น
ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูต้องใช้เครื่องอุปกรณ์ตัดถ่าง ทำการตัดหัวเก๋งที่ได้รับความเสียหายออกบางส่วน เพื่อจะได้ทำการขยับรถคันเกิดเหตุและเคลียร์เส้นทางการจราจร ให้ใช้งานได้ตามปกติโดยเร็ว แต่ก็ต้องใช้เวลาย้ายรถออกจากจุดเกิดเหตุ เกือบ 2 ชั่วโมง
จากการสอบถามเบื้องต้น ทราบว่า ขณะเหตุเกิดมีฝนตก และ รถบรรทุกพ่วง ออกมาจาก ลานเก็บตู้คอนเทนเนอร์ ที่อยู่บริเวณเลียบด่วนบางหญ้าแพรก และกำลังจะไปขึ้นตู้สินค้า อีกบริษัทนึง ได้ขับรถออกมาจากลานตู้คอนเทนเนอร์ พอมาถึงจุดเกิดเหตุ รถเกิดเสียหลักไม่สามารถควบคุมพวงมาลัยได้ เลยพุ่งเข้าชนเสาไฟส่องแสงสว่าง และกระเด็นไปชนแท่นปูนแบริเออร์ ของทางด่วน ทำให้หัวเก๋งของรถพ่วง ขาดหลุดออกมาจากตัวรถและมีสภาพพังยับเยิน
นายเกรียงไกร สระน้ำ อายุ 25 ปี ชาว อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ ผู้ขับขี่รถบรรทุกพ่วงประสบอุบัติเหตุ ได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ขณะเกิดเหตุเป็นช่วงเวลาฝนตกตนเองได้ขับรถเปล่ามา เพื่อที่จะไปรับของยังบริษัท แต่ถนนลื่นขณะที่ตนเองได้ขับอยู่เลนซ้ายสุด ทำให้รถไถลไปเลนขวา และชนกับเสาไฟ จากนั้นตนเองได้หักหลบและทำให้รถหมุน เหตุการณ์นี้ตนเองถือว่าโชคดีมากที่ไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่เล็กน้อย ซึ่งรถที่ตนเองขับมาพังยับ ส่วนตนได้ห้อยพระที่บ้านเกิด จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นของพ่อให้ไว้ติดตัวจึงทำให้แคล้วคลาดปลอดภัย
นาง ชุติกาญจน์ ศิริพยัคฆ์ อายุ 33 ปี ชาว อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม ผู้เห็นเหตุการณ์ ได้เล่าให้ฟังว่า จากสภาพรถที่ตนเองเห็นลักษณะจากการพลิกคว่ำคาดว่าคนขับไม่น่าจะรอดชีวิต เพราะกระจกก็แตกรถก็พลิกคว่ำเอาหัวลงเพราะเนื่องจากเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน แต่จากการสอบถามคนขับได้บอกกับตนเองว่า ขณะเกิดเหตุได้รวบรวมสติและกอดพวงมาลัยไว้แน่น พร้อมกับรัดเข็มขัดนิรภัยจึงทำให้ผู้ขับขี่อยู่รอดและปลอดภัยไม่กระเด็นออกมานอกตัวรถ จึงทำให้ไม่เสียชีวิต ถือว่าเหตุการณ์รายนี้รอดปาฏิหาริย์
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ถ่ายภาพ และลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะเชิญตัวคนขับรถพ่วงไปให้ปากคำเพิ่มเติมที่โรงพัก เนื่องจากเหตุการณ์ในครั้งนี้มีทรัพย์สินทางราชการได้รับความเสียหาย จึงแจ้งข้อหากับ นายเกรียงไกร ผู้ขับรถบรรทุกพ่วง ในข้อหา ขับรถประมาททำให้ทรัพย์สินทางราชการได้รับความเสียหาย มีโทษปรับ ไม่เกิน 2,000 บาท
************************
ศราวุธ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ