ทะเลาะวิวาททำร่ายร่างกายพาดหัวข่าว

ผัวทะเลาะกับเมีย ใช้มีดแทงเมียดับ วิ่งหลบหนีเข้าป่าหญ้า ตำรวจบางมดรวบตัวทันควัน

ผัวทะเลาะกับเมีย ใช้มีดแทงเมียดับ วิ่งหลบหนีเข้าป่าหญ้า ตำรวจบางมดรวบตัวทันควัน

เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 1 พฤษภาคม 2568

พ.ต.ท.บุญช่วย ร่วมสมัคร สว.(สอบสวน) สน.บางมด รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายกันและภายในที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต เป็นหญิง 1 ราย ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นภายในซอยสุขสวัสดิ์ 2 แขวง จอมทอง เขต จอมทอง กรุงเทพมหานคร จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และ แพทย์เวร รพ.ศิริราช เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

ที่เกิดเหตุ เป็นแฟลต ไม่มีชื่อ สูง4ชั้น เลขที่ 20/114 ที่บริเวณ ชั้น1 หน้าห้อง เลขที่ 1/11 พบศพ นางสาว ปุณยวีร์ แก้วปราณี อายุ 30 ปี อาชีพ ช่างทาสี เสียชีวิตในสภาพนอนหงาย สวมเสื้อยืดแขนสั้น สีน้ำเงิน กางเกงขาสั้นสีดำ แพทย์เวรตรวจสอบเบื้องต้นพบบาดแผลถูกแทงด้วยของมีคมทั่วลำตัว ไม่ต่ำกว่า10 แผล ส่วนผู้ก่อเหตุ คือ นาย ยุทธเนศ ดำชู อายุ27 ปี หลบหนีไป

จากการสอบถาม นาย สยาม แก้วปราณี อายุ 32 ปี พี่ชายผู้เสียชีวิต เล่าว่า เดิมที่น้องสาวไปทำงานรับจ้างที่ จังหวัด พัทลุง ก่อนจะย้ายมาอยู่ที่แฟลตที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นแฟลตเดียวกับที่ตนพักอยู่ แต่อยู่คนละห้องกัน โดยผู้ตายมาอยู่ได้ประมาณ 3 สัปดาห์ โดยอยู่ร่วมกับแฟนหนุ่มผู้ก่อเหตุและลูกสาว อายุ 6 ขวบ ซึ่งเป็นลูกติดของผู้ตาย ส่วนในช่วงเวลาเกิดเหตุ ตนออกไปทำงานแต่ แฟนสาวเล่าให้ฟังว่าผู้ตายเดินร้องไห้มา แล้วนำลูกสาว อายุ 6 ขวบ มาฝากไว้กับแฟนสาว โดยกล่าวสั้นๆเพียงว่า “ ฝากไว้ซักครู่ ” แล้วเดินกลับไปยังห้องพัก ส่วนแฟนสาวพาเด็กออกไปซื้อของ แล้วกลับมาพบว่า นางสาว ปุณยวีร์ โดนแทงเสียชีวิตแล้ว

นาย สยาม ยังกล่าวต่ออีกว่า ตนไม่ทราบว่าทั้งคู่คบกันมานานหรือยัง และไม่รู้ว่า ทั้งคู่มีปัญหาอะไรกัน จนนำมาสู่เหตุการณ์ในครั้งนี้

ทางด้าน นางสาว มะลิวัลย์ ทรัพย์ขำ
อายุ 33 ปี เป็นพี่สะไภ้ กล่าวว่าตั้งแต่แรกตนเข้ามาเอาลูกสาวของตนออกจากบ้านแล้วตนก็ไปตลาดนัดอินดี้แล้วตนก็กลับมาเสร็จแล้วน้องก็คือผู้ตายเอาลูกมาฝากเอาไว้ที่ตนแล้วก็บอกกับตนว่าเด๋วมาแปบนึงฝากดูแลลูกหน่อยแล้วตนก็ไปซื้อยาที่ร้านสะดวกซื้อแล้วกลับมาแปบเดียวไม่ถึง 5 นาที ก็มีคนวิ่งมาบอกว่าน้องโดนแทงตนก็เข้ามาก็ไม่รู้ คนแทงเป็นสามีเขา ส่วนลูกก็เป็นลูกติดของผู้เสียชีวิตเขาไม่มีลูกด้วยกัน เขาคบกับผู้ชายคนนี้ได้สักพักแล้วล่ะ แต่ตนก็เพิ่งจะเห็นผู้ชายตอนที่เขาเพิ่งจะย้ายมาอยู่นี่เดือนนี้เองน่าจะประมาณต้นเดือน เขาย้ายกันมาทั้งครอบครัวเลย ตนไม่เคยเห็นเขาทะเลาะกันนะ เขาดูเหมือนรักกันดีตนไม่เห็นเขาทะเราะกัน กับแฟนเก่าของผู้ตายเขาก็เลิกกันนานแล้วเขาไม่เคยติดต่ออะไรกันเลยจนกระทั้งมาคบกับผู้ชายคนนี้ ตอนก่อนที่จะเกิดเหตุเขานั่งอยู่ด้วยกันผู้ชายนั่งกินเหล้าอยู่ส่วนฝ่ายผู้หญิงเขานั่งทำกับข้าวอยู่แล้วเขาก็มาเอาลูกสาวของตนไปปรกติแล้วลูกสาวของตนก็จะนอนนี่ด้วยนะแต่ว่าวันนี้ลูกขอนตนอยากไปนอนด้วย ตนมารู้อีกทีตอนที่เขาโดนแทงแล้ว ตนมาเห็นสภาพศพครั้งแรกตนก็ไม่กล้าดูเลยเพราะตนเป็นคนกลัวเลือดอยู่แล้วด้วย ส่วนเขาโดนแทงกี่แผลตนก็ไม่รู้ตนไม่กล้าเข้าไปดูเพราะตนกลัวเลือดตนเห็นว่าเขานอนจมกองเลือดอยู่ก็รีบโทรบอกแฟนของตนแล้วก็รีบโทรบอกแม่ ส่วนตนเป็นพี่สะไภ้ของเขา หลังจากนี้ตนก็ต้องเลี้ยงหลานแล้วก็จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดกับผู้ก่อเหตุ แล้วตอนนี้ตนก็รู้สึกโกรธแค่นเขามาก

ส่วนทางด้าน นาย มณี หาดี เพื่อนบ้านเล่าให้ฟังว่า ช่วงเวลาเกิดเหตุ ตนพักผ่อนอยู่ในห้องพัก ก่อนจะได้ยินเสียงโครมครามภายในห้องพักของผู้ตาย ตนจึงเปิดประตูออกมาดู และเห็นผู้ตายออกมาจากห้องพักและลมลงนอนอยู่หน้าห้องพักหายใจรวยริน ก่อนร้องขอความช่วยเหลือ โดยในขณะเดียวกันผู้ก่อเหตุอาศัยช่วงชุลมุนวิ่งหลบหนีออกจากห้องพักไป

และส่วนทางด้าน นาง มัจฉา สิงห์ทอง อายุ 52 ปี เป็นแม่ของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตอนที่เขาไปอยู่ที่ใต้ก็มีการตีกัน แม่ก็ไม่ค่อยชอบเขาเท่าไหร่ ส่วนที่ใต้ก็คือบ้านของผู้ก่อเหตุเขาจะไปชิงกับพ่อของลูกมาเขาไปหลอกมาบางทีก็อยู่ใต้ตบตีกันบ่อยทะเลาะกันบ่อยแล้วก็มีแม่ทางผู้ชายอยู่ด้วย ขนาดแม่เขาอยู่ด้วยเขายังตบตีลูกสาวของตนโดยที่ทางแม่ของฝ่ายชายไม่เคยห้ามปรามลูกเขาเลย ลูกสาวของตนก็พยายามหนีหลายรอบแล้วแต่มีเรื่องจำเป็นเรื่องรถเรื่องอะไรกันอยู่ผู้ชายคนนี้เอารถกระบะของลูกสาวตนไปขายตั้งแต่ตอนที่อยู่ใต้แล้วลูกสาวตนก็เคยแจ้งความเอาไว้แล้วเรื่องรถหายเขาเป็นคนเอาไปยังเป็นคดีความกันอยู่เลย แล้วเขาก็พยายามดึงลูกสาวตนมาเขาก็มีแบบว่าไม่รู้ไปตะล่อมกันแบบไหนแต่ก่อนเขาไปทำงานอยู่ที่โคราชเด๋วก็ทะเลาะกัน เด๋วก็ทะเลาะกัน แม่ก็เอาหลานกลับไปอยู่บ้านแล้วก็ให้เขากลับไปแล้วก็ขอให้คิดดีดีนะแม่พูดทุกอย่างนี่มันให้เก็บไปคิดว่าเขาดีหรือไม่อะไรไม้แล้วทีนี้ก็เอาเขาไปกลับบ้านแล้วก็ไปทำแบบนี้กันกับแฟนใหม่คนนี้ลูกของตนคบกับเขากำลังจะเข้า 3 ปี ทีแรกประมาณปีนึงแม่เป็นคนไปเอาเขาแยกกันออกมาเองหลังจากนั้นฝ่ายชายก็เป็นคนไปตามกลับมาเองเขาก็หากินกันไปแบบนี้นะแหละจนแม่ก็สงสารหลานก็เลยรับมาให้ลูกชายของตนดูแลแม่ก็ทำงาน ทางนี้ก็มีงานก็เลยเอามาอยู่ด้วยกัน ส่วนลูกสาวของตนก็มีลูกอยู่แล้ว 2 คนเป็นผู้หญิงทั้งคู่คนโตเรียนอยู่ชั้น ม.1 แล้ว พ่อของเด็กเอาไปเลี้ยงดูส่วนลูกสาวคนเล็กก็อยู่กับแม่ส่วนลูกสาวคนเล็กก็ไม่เคยถูกผู้ชายคนนี้ทำร้ายเขาพูดดีกับเด็กตนก็ยังคิดว่าเขาก็ยังพูดกับหลานของตนดี แต่ก็มีผิดสังเกตุมีพาหลานสาวของตนไปเที่ยวเขาบอกลูกสาวทำมีดเขาหายเป็นมีดที่เขาพกติดตัวอยู่ตลอดเป็นมีดประจำกายของเขา วันนั้นลูกสะไภ้ของตนเอามาคืนเขาก็โมโหใหญ่เลยนะทำไมมีดแค่นี้ต้องโมโหถึงกับนั่งนิ่งเพราะไม่รู้จะทำยังงัยเพราะมีดเขาหาไม่เจอแล้วทางเมียเขาบอกว่าก็ไปดูที่บ้านพี่ก็อยู่นั่นแหละ แล้วพอเขาหามีได้ก็มาเสียบพกเอาไว้ตรงเอวก็คือมีดอันนั้นเขารักมากแต่แม่เอะใจนะว่ามันไม่ใช่นะพกมีดพกอะไรผลสุดท้ายก็เกิดเรื่องขึ้นจริงๆลูกสาวของตนเคยพูดกับตนว่าเขาเป็นคนเก็บกดเก็บอารมณ์แล้วก็เป็นคนขี้หึงมีตลอดโทรศัพท์มีไม่ได้ต้องใช้ของเขากลัวลูกสาวตนจะโทรไปหาคนนู้นคนนี้ลูกสาวตนก็ยอมใช้โทรศัพท์ด้วยกันเพื่อตัดปัญหาและเพื่อความสบายใจ โทรศัพท์พังไปหลายเครื่องแล้ว สามีใหม่เวลาเขาโมโหขึ้นมาก็จะขว้างโทรศัพท์พังไปหลายเครื่องแล้ว วันนี้ตนทำงานอยู่ที่บางนาเป็นแม่บ้าน พอตนได้รับโทรศัพท์ก็รีบมาเลย พอมาเห็นแบบนี้ตนก็รับไม่ได้ทำไมต้องเป็นแบบนี้ตนก็คอยช่วยเหลือคอยดูแลเขาแต่ทำไมต้องเป็นแบบนี้ทำไมต้องมาฆ่าลูกสาวของตนด้วยตบตีไม่ว่าอยู่กันไม่ได้ก็ต่างคนต่างไปแค่นั้นนี้ต้องมาจบชีวิตแล้วลูกจะอยู่ยางงัย ตนจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดโดยไม่ยอมความไดๆทั้งสิ้นเพราะว่ามาจบชีวิตลูกตนแบบนี้ตนไม่ยอมเด็ดขาดลูกสาวตนก็หาข้าวหาอะไรให้กินเอาส่วนไหนคิดทำไมต้องมาจบชีวิตลูกสาวของตนด้วยอารมณ์ชั่ววูปตบตีไม่ว่าแค่ตบตีตนก็ไม่ได้ว่า ตอนที่ลูกสาวของตนถูกเขาทำร้ายร่างกายตอนนั้นเขาอยู่ใต้ตยก็โทรไปถามลูกของตนว่าแม่ของเขาว่ายังงัยตอนอยู่ใต้แม่ซื้อตั๋วให้มาบ้านให้หนีเขา แต่เขาก็มาตามตื้อ ลูกสาวก็ไม่อยากกลับเวลาเขาเมาก็จะคลั่ง หลังจากนี้ก็จะเอาร่างของลูกสาวไปไว้ที่วัดนาคนิมิตร ถนน สุขสวัสดิ์ จะตั้งสวดเอาไว้ 3 คืน แล้วก็จะเผาเลยส่วนหลานสาวของตนก็จะให้ลูกชายของตนช่วยดูแลต่อแล้วจะย้ายเขามาเรียนที่นี่ ตนสงสารทุกอย่างทำอะไรก็สงสารหลานสาว แล้วหลานสาวของตนคนเล็กตอนนี้อายุแค่ 6 ขวบเองเรียนชั้นอนุบาล 3 กำลังเป็นเด็กน่ารักเลยสงสารหลาน

ทั้งนี้จากการสอบถามพยานในที่เกิดเหตุทราบว่า ผู้ก่อเหตุดื่มเหล้า เป็นประจำ แต่ไม่พบพฤติกรรมเสพยา

ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจพบมีดพก ความยาวประมาณ 30 เซนติเมตร และ ปลอกใส่มีดที่ใช้ก่อเหตุ อยู่ในถังขยะ ห่างจุดเกิดเหตุราว 80 เมตร
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และชาวบ้านปูพรมค้นหา ผู้ก่อเหตุ จนพบตัว ผู้ก่อเหตุแอบหลบซ่อนอยู่หลังกองขยะในพื้นที่รกร้างห่างจากที่เกิดเหตุราว 200 เมตร โดยมีอาการคล้ายคนเมา ก่อนจะถูกคุมตัวมาเพื่อขึ้นรถตำรวจ โดยระหว่างนั้น ชาวบ้าน ต่างตะโกนด่าทอผู้ก่อเหตุ และญาติผู้ตายวิ่งเข้าไปหมายจะต่อยผู้ก่อเหตุ แต่ตำรวจห้ามไว้ได้ทัน

และทั้งนี้ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวผู้ก่อเหตุขึ้นรถ ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามว่าทำไมถึงลงมือก่อเหตุ ยุทธเนศ ตอบสั้นๆว่า เป็นเรื่องภายในครอบครัว ขอให้การในชั้นศาล

แล้วจากการสอบปากคำเบื้องต้น นาย ยุทธเนศ ยอมรับว่าก่อเหตุแทงแฟนสาวจริง โดยอ้างว่า ผู้ตายชอบดูถูกตน และก่อนเกิดเหตุทั้งคู่มีปากเสียงกัน และผู้ก่อเหตุใช้มีดที่พกติดตัวแทงผู้ตายก่อนจะหลบหนีไป

ต่อมาชุดจับกุมนำตัวนาย ยุทธเนศไปสอบปากคำที่ สน.บางมด อย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป