ข่าวทั่วไปพาดหัวข่าว

ชุมพร – น้องอั้ม ผู้เสียหายอีก 1 ราย จากสาวแซบ เจ้าของบ้านทิพย์ หลอกเซ็นสัญญาและให้โอนเงินมัดจำค่าเช่าบ้าน พอขนของเพื่อเข้าไปอยู่ (เป็นบ้านใครก็ไม่รู้) เย้ยกฎหมายเอาผิดไม่ได้

ชุมพร – น้องอั้ม ผู้เสียหายอีก 1 ราย จากสาวแซบ เจ้าของบ้านทิพย์ หลอกเซ็นสัญญาและให้โอนเงินมัดจำค่าเช่าบ้าน พอขนของเพื่อเข้าไปอยู่ (เป็นบ้านใครก็ไม่รู้) เย้ยกฎหมายเอาผิดไม่ได้
ธนากร โกศลเมธีรายงาน 0818923514
วันที่ 5 พฤษภาคม 2568 เวลา 08.00น ผู้สื่อข่าวรายงาน จากนางสาวอนินทิตา ใจใส อายุ 23ปี ในวันที่ 27 เมษายน 2568 เวลากลางวันเข้าพบพนักงานสอบสวนสภ.เมืองชุมพร ผู้เสียหายต้องการหาบ้านเช่าแถวอำเภอเมืองจึงได้โพสต์ในกลุ่มบัญชี Facebook ชื่อหาบ้านเช่าห้องเช่าชุมพรจากนั้นได้มีคนรายได้ใช้บัญชี Facebook ชื่อ Akl Kanyarat แชทมาสอบถามต้องการปล่อยให้เช่าบ้านเดือนละ 5000 บาทเป็นบ้านเลขที่ 51 / 142 หมู่ที่หนึ่งตำบลบางหมากอำเภอเมืองจังหวัดชุมพรที่เกิดเหตุผู้เสียหายเห็นว่าคล้ายบ้านเช่าเลขที่ 51 / 141 หมู่ที่ 1 ตำบลบางหมาก อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร ซึ่งพี่สาวได้ติดต่อและผู้เสียหายได้เดินทางมา แล้วเมื่อวันที่ 21 เมษา 2568 จึงได้สอบถามคนร้ายอ้างว่าบ้านทั้งสองหลังอยู่ติดกันผู้เสียหายสนใจที่จะเช่าบ้านจึงนัดหมายกันทำสัญญากันในวันที่ 29 เมษายน 2568 เวลากลางวัน ณ ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในวันเดียวกันเวลา 14.40 น จึงได้โอนเงินค่ามัดจำจำนวน 5000 บาทไปยังบัญชีธนาคาร ของนางกัญญารัตน์ หลังจากโอนแล้วได้ตกลงว่าจะย้ายเข้าบ้านที่เกิดเหตุในวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 หลังเที่ยงเมื่อถึงกำหนดผู้เสียหายได้ย้ายของไปที่บ้านที่เกิดเหตุทำให้ทราบว่าบ้านเลขที่ 51 / 142 ไม่ใช่บ้านของนางธัญญารัตน์ แต่เป็นบ้านของบุคคลอื่นเมื่อสอบถามก็บ่ายเบี่ยงเรื่อยมา การกระทำดังกล่าวเป็นเหตุให้ได้รับความเสียหายจึงมาร้องทุกข์มอบคดีให้กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร ดำเนินคดีกับนางกัญญารัตน์จนกว่าคดีจะถึงที่สุด


นางสาวอนินทิตา ใจใส หลังจากโอนเงินเข้าไปให้แล้วนัดหมายกันว่าจะเข้าบ้านในวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 ขนย้ายข้าวของไปถึงก็พบปัญหาว่าบ้านหลังดังกล่าวมีคนอยู่ภายในบ้านและ ไม่ได้เป็นบ้านของผู้ให้เช่าจึงได้โทรติดต่อแต่ก็บ่ายเบี่ยงแล้วก็ยังจะชดใช้ค่าเสียเวลาโดยโอนเงินกลับมา 1500 บาทเพื่อให้ไปเช่าโรงแรมอยู่ก่อนแจ้งว่าจะเคลียร์ให้คนที่อยู่ออกจากบ้านก่อนหลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลยส่วนพี่สาวก็ยังสามารถติดต่อและทัก LINE คุยกัน ในวันนี้ได้โทรไปหาน้องสาวผู้ก่อเหตุแต่ก็ได้รับคำตอบว่าผู้ก่อเหตุไม่ได้เข้ามาในบ้านและถูกตัดขาดจากครอบครัวไปแล้วส่วนใหญ่จะไปอยู่กับพ่อและพ่อตามใจอยู่ตลอดก่อเหตุอะไรพ่อจะออกมารับผิดชอบชดใช้ให้อยู่ตลอดโดยหลายๆเคส พ่อก็จะไปยืมเงิน มาชดใช้ให้กับผู้เสียหายแล้วพ่อก็จะจะมาลำบากในการหาเงินไปคืนแหล่งเงินที่ยืมมาในปัจจุบันคุณพ่อไม่ได้ป่วยแต่ผู้ก่อเหตุจะพยายามเอารูปภาพเก่าเก่าของคุณพ่อและคุณปู่ที่ป่วยออกมาโพสต์ เรียกร้องความสงสารและเห็นใจในการก่อเหตุต่างๆ ส่วนน้องสาวของผู้ก่อเหตุเล่าว่า เค้าจะมีพฤติกรรมแบบนี้มานานแล้ว แล้วที่ดินที่เป็นสวนทุเรียนของผู้ก่อเหตุก็ได้ขายทิ้งไปหมดแล้วส่วนใหญ่ก็จะเป็นของญาติที่เหลือ สอบถามถึงอาชีพผู้ก่อเหตุเค้าทำอะไรน้องสาวผู้ก่อเหตุเล่าว่าเค้าไม่มีอาชีพอะไร นอกเสียจากจะโกงทุจริตกินไปเรื่อยเรื่อย
ในวันนี้ก็ขอฝากเตือนเพื่อนเพื่อนที่อยู่ในโซเชียลที่ต้องการหาบ้านเช่าก็ขอให้ตรวจสอบรายละเอียดให้ดีให้มากก่อนจะจ่ายก่อนจะวางมัดจำขอให้มาตรวจสอบบริเวณข้างบ้านเพื่อนบ้านว่าแบบไหนยังไงเพราะตัวก็พยายามตรวจสอบแล้วทั้งในบัญชีคนโกงแล้วก็ประวัติคนโกงก็ยังพลาด ที่จะต้องมาโดนกระทำแบบนี้ ส่วนผู้เสียหายในคดีนี้ได้นัดรวมตัวกันไปแจ้งความเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองชุมพรในวันอังคารที่จะถึงนี้ วันที่ 6 พฤษภาคม 2568