คืบหน้า ชาวมาเลเซียซิ่งเก๋งแข่งกันกลางดึก ทั้งหมด 6 คัน ซึ่งเป็นวัยรุ่นชาย-หญิง อายุ 21-25 ปี ประมาณ 10 คน สร้างความเดือดร้อนเสียงดังรบกวนชาวบ้าน
คืบหน้า ชาวมาเลเซียซิ่งเก๋งแข่งกันกลางดึก ทั้งหมด 6 คัน ซึ่งเป็นวัยรุ่นชาย-หญิง อายุ 21-25 ปี ประมาณ 10 คน สร้างความเดือดร้อนเสียงดังรบกวนชาวบ้าน
ล่าสุด พ.ต.อ.อภิชาติ วรรณโก ผกก.สภ.คอหงส์ พ.ต.ท.ภูวดล วิริยนรางกูล รอง ผกก.ป.สภ.คอหงส์ พ.ต.ท.ธนวัฒน์ ใบหมาดปันจอ รอง ผกก.(สอบสวน)สภ.คอหงส์ ร่วมกับ พ.ต.ท.ศักดิ์อนันต์ คำไสย สวญ.ส.ทท.1 กก.3 บก.ทท.3 พร้อมชุดสืบสวนของตำรวจท่องเที่ยว ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่กลุ่มรถยนต์เก๋งชาวมาเลเซียใช้ประลองความเร็วและขับกีดขวางการจราจร เพื่อออกติดตามจับกุมตัว ต่อมาช่วงเวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.คอหงส์ ร่วมกับชุดสืบสวน ของตำรวจท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ตำรวจ จราจร สภ.คอหงส์ สามารถติดตามจับกุมตัวกลุ่มรถยนต์เก๋งทั้งหมด 6 คัน ที่ปรากฎอยู่ในคลิปวิดีโอที่เป็นข่าว พร้อมประสานมัคคุเทศล่ามแปลภาษา ก่อนจะมีการพูดคุยทำความเข้าใจกฎหมาย พรบ.จราจร ของประเทศไทย
จากการตรวจสอบ พบว่า เป็นวัยรุ่นชายหญิง อายุ 21-25 ปีเท่านั้น ประมาณ 10 คน จึงได้เชิญตัวทั้งหมดไปปรับทัศคติในเรื่องกฎหมายจราจรของประเทศไทย พร้อมกับเปรียบเทียบปรับตามกฎหมายพรบ.จราจร จากนั้นมัคคุเทศได้แปลภาษาซึ่งวัยรุ่นชาวมาเลเซีย ได้กล่าวว่า พวกเราต้องขอโทษชาวหาดใหญ่ที่ทำให้เสียงดังและเกิดความไม่สบายใจ ต้องขอโทษทุกๆคนต่อไปจะไม่ทำอีกแล้ว ต้องขอโทษจากใจจริง ก่อนที่กลุ่มวัยรุ่นชาวมาเลเซียยกมือไหว้ขอโทษ
ทางด้าน พ.ต.ท.ธนวัฒน์ ใบหมาดปันจอ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.คอหงส์ เปิดเผยว่า จากที่มีชาวบ้านร้องเรียนกรณีมีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียขับรถยนต์ลักษณะกีดขวางการจราจรและก่อให้เกิดเสียงดังสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับชาวบ้าน หลังทราบเรื่องทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คอหงส์ และ เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว ได้ร่วมกันสืบสวนออกติดตามกลุ่มรถยนต์ชาวมาเลเซีย สามารถติดตามตรวจยึดรถยนต์พร้อมคนขับได้ทั้งหมดตามในคลิปวิดีโอที่ชาวบ้านร้องเรียนมา ทั้งหมด 6 คัน ซึ่งเป็นวัยรุ่นชาย-หญิง อายุ 21-25 ปี ชาวมาเลเซีย ประมาณ 10 คน
ส่วนในการดำเนินคดีก็ได้ดำเนินคดีตาม พรบ.จราจร ทั้งหมด 4 ข้อหา ทั้งหมด 4 ข้อหา ข้อหาอุปกรณ์ส่วนต่างไม่เป็นไปตามกฎกระทรวง ข้อหาอุปกรณ์ส่วนต่างไม่ครบถ้วน ข้อหาขับรถในลักษณะกีดขวางการจราจร ขับรถประมาทหวาดเสียว และ ข้อหาดัดแปลงสภาพรถ
ส่วนในกรณีที่นักท่องเที่ยวขับรถยนต์เข้ามาในประเทศไทยนักท่องเที่ยวควรปฎิบัติตามกฎหมาย ตาม พรบ.จราจร ของประเทศไทย และฝากถึงนักท่องเที่ยว ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง มัคคุเทศต่างๆ กรณีที่นำนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย หรือว่า ชาวอินโดนีเซีย สิงคโปร์ต่างๆที่พาเข้ามาในประเทศไทย ให้นักท่องเที่ยวปฎิบัติตามกฎหมายจราจรประไทยอย่างเคร่งครัด
หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.ตอหงส์ ได้ทำการเปรียบเทียบปรับแล้วเสร็จ กลุ่มวัยรุ่นขาวมาเลเซียทั้งหมด ก็ได้เดินทางกลับประเทศมาเลเซียทันที หลังครบกำหนดการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยครบ 3 วันพอดี.
พี่เสือ นักข่าว สงขลา