ทนายรณรงค์ พาสองสามีภรรยาชาวเชียงใหม่ ติดตามคดี เปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวน หลังถูกหลอกซื้อรถสูญเงิน 6 แสน
ทนายรณรงค์ พาสองสามีภรรยาชาวเชียงใหม่ ติดตามคดี เปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวน หลังถูกหลอกซื้อรถสูญเงิน 6 แสน
เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 27 พฤษภาคม 2568 ที่ สภ.บางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ทนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมทีมงาน พาสองสามีภรรยาชาวเชียงใหม่ ซึ่งภรรยากำลังตั้งครรภ์ 8 เดือน เดินทางมาพบกับ พันตำรวจเอก ไพโรจน์ เพชรพลอย ผกก.สภ.บางพลี เพื่อติดตามความคืบหน้าและร้องทุกข์ ยื่นพยานหลักฐาน เช่น คลิปวงจรปิด แชต และสลิปโอนเงิน แจ้งความข้อหาเพิ่มเติม ได้แก่ ฉ้อโกงประชาชน และกักขังหน่วงเหนี่ยว หลังถูกหลอกซื้อรถหลุดจำนำผ่านเฟซบุ๊ก มูลค่ากว่า 640,000 บาท ที่หน้าร้านกาแฟหน้าตลาดแห่งหนึ่งย่านบางพลี เมื่อโอนเงินส่วนที่เหลือ 627,000 บาทแล้ว กลับถูกชายที่นำรถมาส่งขับรถหนีไปทั้งที่ภรรยานั่งอยู่ในรถ ผู้เสียหายพยายามตามขึ้นไปช่วย ก่อนผู้ก่อเหตุจะทิ้งรถหลบหนี แม้ภายหลังตำรวจ สภ.บางพลี จะเข้ามาไกล่เกลี่ย แต่กลับระบุว่าผู้ก่อเหตุเป็นเจ้าของรถตัวจริงและไม่สามารถดำเนินคดีได้ ทำให้ผู้เสียหายรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม
หญิงผู้เสียหาย ให้ข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2568 เขาได้ติดต่อซื้อรถกระบะโตโยต้า ร็อคโค่ สีเขียว ปี 2025 จากเพจเฟซบุ๊กชื่อ “วิ่งดาว จำนำรถทุกชนิด” ในราคา 640,000 บาท โดยมีนายแบงก์ (ไม่ทราบชื่อจริง) เป็นผู้เจรจาขาย โดยให้โอนค่ามัดจำ 7,000 บาท และชำระส่วนที่เหลือในวันรับรถเมื่อถึงวันนัดรับรถ พบกับชายสามคน คือ นายสันติ, นายทนงศักดิ์ และนายแบงก์ ที่นำรถมาส่งให้บริเวณปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งย่านบางพลี ผู้เสียหายจึงโอนเงิน 627,000 บาทตามที่ตกลงไว้
แต่หลังจากโอนเงินเสร็จ นายสันติกลับตะโกนว่า “มึงโอนให้ใคร กูไม่รู้จัก” ก่อนจะขับรถออกไปทั้งที่ตนนั่งอยู่ในรถ แฟนตนจึงรีบกระโดดขึ้นท้ายกระบะ พยายามหยุดรถโดยใช้มือทุบกระจกจนแตก และมุดเข้าไปในห้องโดยสาร จนนายสันติต้องจอดรถแล้วหลบหนี
ต่อมา นายสันติ และนายทนงศักดิ์ กลับมายังรถพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.บางพลี แต่กลับถูกระบุว่าเป็นเจ้าของรถและผู้เสียหาย ไม่สามารถดำเนินคดีกับพวกเขาได้ ทำให้ผู้เสียหายรู้สึกงุนงงและไม่ได้รับความเป็นธรรม
ด้าน นายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาแจ้งข้อหาหน่วงเหนี่ยวกักขัง ข้อหาฉ้อโกง และให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามคนร้ายที่กระทำความผิดมาดำเนินคดี เหตุผลที่ตนเข้ามาช่วยเพราะสงสาร ที่หญิงท้อง 8 เดือนต้องมาเดิมตามหาหลักฐานเก็บกล้องวงจรปิดด้วยตนเอง ซึ่งจากที่มีการพูดคุยกับผู้กำกับ สภ.บางพลี ก็เป็นผลดี ตนก็อยากให้คู่กรณีอีกฝ่ายที่อ้างว่าไม่มีส่วนรู้เห็นให้มาพูดคุยกัน ส่วนที่ตนทราบมาว่า มีกลุ่มกะบวนการค้ารถเถื่อนเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำเป็นขบวนการ ตรงนี้ก็ต้องรอการขยายผล และวันนี้ตนก็มาขอให้ท่าน ผู้กำกับ เปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวน เหตุเพราะหลายปัจจัย ทั้งทำคดีล่าช้า กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม และ ตัวพนักงานสอบสวนที่ทำคดีนี้ มีการไปคอมเมนต์ในเพจดัง ว่า ระวังจากผู้เสียหาย จะกลายเป็นผู้ต้องหาเสียเอง ตรงนี้ผู้เสียหายก็เกิดความกลัว แต่ในส่วนนี้ก็มีการปรับความเข้าใจกันแล้ว
***************************
ศราวุธ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ