สุดเวทนาลูกออทิสติกเฝ้าศพพ่อ 3 วัน คิดว่าพ่อนอนหลับขณะตกปลาชายทะเล สุดท้ายนอนอืดท้ายกระบะรถ**
*สุดเวทนาลูกออทิสติกเฝ้าศพพ่อ 3 วัน คิดว่าพ่อนอนหลับขณะตกปลาชายทะเล สุดท้ายนอนอืดท้ายกระบะรถ**
**เมื่อเวลาประมาณ 14.30 น.วันที่ 28 พ.ค.68 พ.ต.ท.จรัญ สุขสวัสดิ์ สารวัตรสอบสวน สภ.คลองวาฬ ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน พบศพคนนอนเสียชีวิตอยู่ภายในรถบริเวณท้ายกระบะรถ ซึ่งจอดอยู่ริมชายหาดทะเลบ้านคลองวาฬ เขตเทศบาลคลองวาฬ อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ หลังได้รับแจ้งจึงพร้อมเจ้าหน้าที่รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างประจวบฯ และ แพทย์หญิงธิดาพร เปล่งอุดมกิจ แพทย์เวรโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ร่วมชันสูตรพลิกศพ ณ จุดเกิดเหตุ**
**เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบรถยนต์กระบะ ตอนเดียว ยี่ห้อ nissan สีม่วง มีหลังคาคลุมกระบะ หมายเลขทะเบียน บง 5645 สมุทรสาคร จอดอยู่บริเวณริมชายหาดทะเลบ้านคลองวาฬ เขตเทศบาลคลองวาฬ ห่างจากอุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ ประมาณ 200 เมตร โดยมีลูกชายซึ่งป่วยออทิสติกอายุประมาณ 11-12 ปีนั่งเฝ้าศพพ่ออยู่บริเวณท้ายกระบะ ตรวจสอบภายในรถบริเวณท้ายกระบะ พบศพชาย 1 ราย นอนเสียชีวิตอยู่ในสภาพนอนหงาย นุ่งกางเกงขาสั้นสีเทา-ดำ ไม่สวมเสื้อ สภาพขึ้นอืดผิวหนังหลุดร่อน คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3 วัน ทราบชื่อต่อมา นายเอกพล ช้างทรัพย์ อายุ 59 ปี ภูมิลำเนาอยู่หมู่ 2 ตำบลหินเหล็กไฟ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ใกล้กับศพผู้เสียชีวิตพบอุปกรณ์ตกปลา คันเบ็ดตกปลาพร้อมรอกจำนวน 2 คัน กระติกน้ำ จำนวน 2 ใบ และรองเท้าแตะสีแดงคาดว่าเป็นของผู้ตายจำนวน 1 คู่**
**จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจเบื้องต้น โดยการสอบถามเด็กซึ่งเป็นลูกของผู้ตาย ทราบว่าผู้เสียชีวิตมีโรคประจำตัวคือป่วยโรคไต และได้เดินทางมาจากบ้านเช่าในเขตเทศบาลคลองวาฬ และขับรถมาจอดตกปลาอยู่ชายทะเล ณ จุดเกิดเหตุพร้อมกับลูกชาย 2 คน อายุประมาณ 12 ปี 1 คน (ซึ่งป่วยเป็นออทิสติก) และลูกชายอายุประมาณ 6-7 ขวบอีก 1 คน ซึ่งจุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากบ้านเช่าประมาณ 1 กิโลเมตร ต่อมาลูกที่ป่วยออทิสติกไม่รู้ว่าพ่อเสียชีวิตแล้วคิดว่าพ่อนอนหลับ จึงได้นั่งเฝ้าร่างของพ่ออยู่ชายทะเลไม่ได้กินข้าว กินแต่อาหารบางส่วนที่พกไป จนมีเจ้าของบ้านเช่าไปแจ้งความกับตำรวจว่าผู้เช่าบ้านหายไป 3 วันแล้ว พบแต่ลูกชายของผู้เช่าบ้านวัย 6-7 ปี เดินกลับมาบ้านเช่าบอกว่าพ่อเสียชีวิตแล้ว **
**ด้านแพทย์หญิงธิดาพร เปล่งอุดมกิจ แพทย์เวรโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า จากการชันสูตรเบื้องต้นตอบได้เพียงสั้นๆว่าไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิตต้องนำศพไปชันสูตรที่โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้กู้ภัยนำศพส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลประจวบฯเพื่อหาสาเหตุการตายอย่างละเอียด โดยในที่เกิดเหตุเบื้องต้นไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด เนื่องจากจุดเกิดเหตุมีลูกซึ่งป่วยออทิสติกเฝ้าศพอยู่ไม่ห่าง ซึ่งได้ประสานญาติให้มารับศพไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา และรับลูกของผู้เสียชีวิตไปอยู่กับญาติต่อไป**
**ส่วนทางด้านเจ้าของบ้านเช่าเปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตได้มาเช่าบ้านก่อนหน้านี้ประมาณ 2 วัน และหลังจากนั้นก็หายออกจากบ้านไปพร้อมลูก ต่อมาลูกชายของผู้ตายอายุประมาณ 7 ขวบได้เดินกลับมาบ้าน จึงได้ถามว่าพ่อไปไหนเด็กบอกว่าพ่อตายแล้วฟื้นแล้วก็ตายใหม่ ตอนแรกตนเองยังคิดว่าเด็กพูดเพ้อเจ้อไร้สาระ แต่หลังจากนั้นผ่านมาได้ 3 วัน ผู้ตายก็ยังไม่กลับมาบ้าน จึงได้เดินทางไปแจ้งความกับตำรวจ สภ.คลองวาฬ และให้ลูกของผู้ตายวัย 7 ขวบพาไปหาพ่อที่จุดเกิดเหตุ ก็พบว่านอนเสียชีวิตขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งทั่วบริเวณชายหาดแล้ว****
//////////
พิสิษฐ์รื่นเกษมข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์โทร 064-364-1644 รายงาน