อ่างทอง เปิดใจยาย72ปีคิดสั้นกระโดดแม่น้ำเจ้าพระยาจบชีวิตพ้อลูกชายติดยาไม่ยอมทำงานเอาแต่เล่นเกมกับเสพยาขังตัวเองไว้ในห้อง
อ่างทอง เปิดใจยาย72ปีคิดสั้นกระโดดแม่น้ำเจ้าพระยาจบชีวิตพ้อลูกชายติดยาไม่ยอมทำงานเอาแต่เล่นเกมกับเสพยาขังตัวเองไว้ในห้อง ยายเผยถ้าชีวิตยังเป็นเหมือนเดิมจะไปกระโดดน้ำจบชีวิตอีก วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแล ด้านตำรวจเผยได้แต่ช่วยยายนำไปส่งบ้านพร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยเหลือ ส่วนลูกชายเข้าออกคุกเป็นว่าเล่นคดียาเสพติด
วันที่ 10 มิ.ย. 68 จากกรณีคุณยาย อายุ 72 ปี คิดสั้นจะกระโดดสะพานอ่างทอง ลงไปจบชีวิตในแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมีพลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์และชาวบ้านช่วยเอาไว้ได้ ทราบชื่อต่อมา นาง ประคอง อยู่สุข อายุ 72 ปี ชาวตำบลบ้านรี เปิดเผยว่า ตนเองมีโรครุมเร้าและปัญหาภายในครอบครัว ทำให้ไม่อยากมีชีวิตอยู่จึงคิดสั้นหวังจบชีวิต จึงได้ว่าจ้างรถจักรยานยนต์จากบ้านพักมาส่งที่เชิงสะพานอ่างทอง แล้วเดินขึ้นสะพานอ่างทองไปหวังจะจบปัญหา ด้วยการกระโดดสะพานลงแม่น้ำเจ้าพระยา แต่โชคดีมีพลเมืองดีและเจ้าหน้าที่ป่อเต็กตึ๊งเข้ามาช่วยไว้ได้อย่างเฉียดฉิว
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของคุณยาย ซึ่งเป็นบ้านไม้สองชั้นมีบ้านชั้นเดียวปลูกคู่อยู่อีกหนึ่งหลัง คุณยาย เปิดเผยว่า ตนเองใช้ชีวิตอยู่กับแมว 4 ตัว ลูกสาวที่สติไม่ค่อยสมประกอบ มีอาชีพขายผักอยู่หน้าวัดที่ไม่ห่างจากบ้านนัก ส่วนลูกชายไม่ทำงานทำการวัน ๆ เอาแต่หมกตัวอยู่ในห้อง เล่นเกมกับเสพยาและชอบขโมยทรัพย์สินในบ้านไปขาย แต่ก็ยังดีที่ไม่ถึงกับทำร้ายตนเอง ตอนนี้ชีวิตความเป็นอยู่น่าหดหู่มาก รู้สึกท้อและไม่อยากอาศัยอยู่ที่บ้าน เมื่อก่อนทำอาชีพขายผักอยู่ในกรุงเทพฯ เมื่อแก่ตัวก็กลับมาอยู่บ้านเกิดกับลูก ๆ ลูกชาย นาย อำนาจ (นามสมมติ) เสพยามาตั้งแต่อายุ 11 ปี จนตอนนี้อายุ 41 ปี ก็ยังไม่เลิกเสพยา ทรัพย์สินที่มีก็หมดลงลงไปทุกวัน ที่ดินที่มีอยู่ก็ขายไปหมดเหลือเพียงบ้านหลังนี้อยู่หลังเดียว ลูกชายยังไม่กลับตัวตนเองก็ไม่อยากอยู่ในบ้านหลังนี้อีกต่อไปแล้ว อยากจะให้เจ้าหน้าที่กรมประชาสงเคราะห์รับไปอยู่ด้วย ส่วนลูกสาวตนเองคิดว่าน่าจะใช้ชีวิตอยู่ได้ แต่ก็เป็นห่วงเรื่องการค้าขายที่อาจจะถูกลูกค้าโกง ถ้าหากยังไม่มีหน่วยงานใดไม่เดินทางเข้ามาช่วย ตนเองก็คงต้องกลับไปกระโดดแม่น้ำจบชีวิตอีกครั้งจนสำเร็จ
ส่วนทางด้าน ร.ต.ต.มนัส มูลอนันต์ รอง สว.(ป.) สภ.เมืองอ่างทอง ร้อยเวร 20 ที่เข้าไประงับเหตุ เล่าให้ฟังว่า ระหว่างที่ปฎิบัติหน้าที่ทางศูนย์วิทยุได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งให้ช่วยเข้ามาเจรจาเกลี้ยกล่อม จึงทราบว่าคุณยายคิดสั้นเพราะลูกติดยาไม่ยอมเลิก จึงได้ตัดสินใจจะกระโดดสะพานจบชีวิต ตนเองจึงได้ทำการช่วยเหลือนำไปสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก ก่อนที่จะประสานเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมให้เข้ามาช่วยเหลือ และนำคุณยายส่งกลับไปอยู่ที่บ้านเพื่อรอเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคม ส่วนลูกชายนั้นเข้าออกคุกอยู่เป็นประจำในคดียาเสพติด ตนเองเห็นใจคุณยาย อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรีบเข้ามาช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เพราะกลัวว่าคุณยายจะกลับมากระโดดสะพานอีกครั้ง
