จับกุมพาดหัวข่าว

“บิ๊กอ้อ” นำทีมภาค 9 ถล่ม! 142 หมายจับ ยึดปืน 112 กระบอก-ไอซ์กว่า 6 แสนกรัม-บุหรี่ไฟฟ้า 3,720 ชิ้น ตามแผนปฏิบัติการ “จัดระเบียบ กระชับพื้นที่ เข้าตีทรชน”

“บิ๊กอ้อ” นำทีมภาค 9 ถล่ม! 142 หมายจับ ยึดปืน 112 กระบอก-ไอซ์กว่า 6 แสนกรัม-บุหรี่ไฟฟ้า 3,720 ชิ้น ตามแผนปฏิบัติการ “จัดระเบียบ กระชับพื้นที่ เข้าตีทรชน”
วันนี้ ( 16 มิ.ย.68) ที่ ตำรวจภูธรภาค 9 ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พล.ต.อ. อัคราเดช พิมลศรี ที่ปรึกษาพิเศษ ตร./ผอ.ศนรด.ตร. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำการแถลงข่าว กวาดล้างอาชญากรรม “จัดระเบียบ กระชับพื้นที่ เข้าตีทรชน” พื้นที่ตำรวจภูธรภาค 9 ในพื้นที่ 7 จังหวัด โดย พล.ต.ท.อิทธิพลจฉริยะประดิษฐ์ รอง จตช./รอง ผอ.ศนรด.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9, พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ รอง ผบช.ภ.9, พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ รอง ผบช.ภ.9, พร้อมคณะทำงานศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมพิเศษ ปฏิบัติภารกิจนี้ในห้วง วันที่ 14 – 16 มิถุนายน 2568 ซึ่งสามารถจับกุมดำเนินคดีได้ตามจุดตรวจค้น 487 จุด จุดเป้าหมาย 488 เป้าหมาย และหมายจับ 142 คดี


ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดตั้งศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมพิเศษ ตามนโยบายเร่งด่วน (ศนรด.ตร.) เพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย ระบบฐานข้อมูล ตลอดจนกำหนดแนวทางการทำงานให้เป็นระบบและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน พร้อมทั้งเร่งรัดขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้บรรลุผลสำเร็จเป็นรูปธรรม เช่น การปราบปรามผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้าง การป้องกันและปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง พฤติการณ์ตามนโยบาลรัฐบาล ที่ตระหนักและให้ความสำคัญในการปราบปรามผู้มีอิทธิพล ซึ่งกระทบต่อความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนตามปกติ มุ่งสร้างความสงบเรียบร้อยอย่างยั่งยืนในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ จึงได้สังการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เร่งรัดจับกุมบุคคลที่มีพฤติการณ์เป็นผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง และผู้ร้ายสำคัญ และตระหนักถึงการป้องกันปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าที่มีเพิ่มมากขึ้นในกลุ่มเยาวชน
สำหรับของกลางที่ตรวจยึดซึ่งนำมาแสดงการแถลงข่าว จากจุดตรวจค้น จำนวน 487 จุด, จุดเป้าหมาย จำนวน 488 เป้าหมาย และหมายจับจำนวน 142 ประกอบด้วย
1. อาวุธปืน รวมทั้งสิ้น 112 กระบอก แยกเป็น อาวุธปืนสั้นจำนวน 49 กระบอก อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ จำนวน 32 กระบอก และอาวุธปืนยาว จำนวน 31 กระบอก
2. ยาเสพติด ประเภทยาไอซ์ จำนวน 615,776 กรัม ,ยาเสพติด (ยาบ้า) จำนวน 19,891 เม็ด ,
3. เครื่องกระสุน จำนวน 1,342 นัด ,
4. บุหรี่ไฟฟ้า 3,720 ชิ้น
5. เงินสด จำนวน 64,850 บาท
และ 6.ของกลางอื่นๆ อีกหลายรายการ
ด้าน พล.ต.อ. อัคราเดช พิมลศรี ที่ปรึกษาพิเศษ ตร./ผอ.ศนรด.ตร. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยต่อสื่อมวลชนถึงผลการจับกุมขยายผลในครั้งนี้ว่า เป็นที่น่าพึงพอใจมาก ตรงตามเป้ามหายที่ได้ดำเนินการไว้ เนื่องจาก 1. เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติตามยุทธวิธี ทั้งหลักการใช้กำลัง และใช้กฎหมาย 2.เจ้าหน้าที่ปลอดภัย และ 3 ไม่มีการสูญเสียชีวิต ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายเจ้าหน้าที่และฝ่ายที่ถูกจับกุมตรวจค้น ทั้งตามหมายจับและเป้าหมายสำคัญก็ตาม
( สัมภาษณ์ / พล.ต.อ. อัคราเดช พิมลศรี ที่ปรึกษาพิเศษ ตร./ผอ.ศนรด.ตร. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ )
สำหรับนโยบายรัฐบาลสั่งเดินหน้าปราบปรามกวาดล้างบุหรี่ไฟฟ้านั้น การปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ ทาง สภ.ควนขนุน จังหวัดพัทลุง สามารถจับกุมตรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้าได้ 3,720 ชิ้น คิดเป็นมูลประมาณ 1.3 ล้านบาท
พล.ต.อ. อัคราเดช พิมลศรี ที่ปรึกษาพิเศษ ตร./ผอ.ศนรด.ตร. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยเกี่ยวกับกรณีการกวาดล้างบุหรี่ไฟฟ้าพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 9 ในพื้นที่ 7 จังหวัดเขตรับผิดชอบ ว่า บุหรี่ไฟฟ้าเป็นภัยอันตรายต่อสังคมมาก อีกทั้งการผลิต การประกอบก็ไม่ได้มาตรฐาน บรรจุสารพิษจำนวนมาก แต่มีความเข้าใจผิดในการสูบบุหรี่ไฟฟ้าว่าแนแฟชั่นเก๋ไก๋ ทั้งที่เป็นมหันตภัยที่ร้ายแรง ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่ห่วงใยประชาชน จึงเป็นภารกิจสำคัญด้านการปราบปรามอาชญากรรม
( สัมภาษณ์เรื่องบุหรี่ไฟฟ้า / พล.ต.อ. อัคราเดช พิมลศรี ที่ปรึกษาพิเศษ ตร./ผอ.ศนรด.ตร. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ )
นอกจากการแถลงข่าวในวันนี้แล้ว ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติยังได้มอบเงินรางวัลแก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ในภารกิจกวาดล้างอาชญากรรม “จัดระเบียบ กระชับพื้นที่ เข้าตีทรชน” พื้นที่ตำรวจภูธรภาค 9 เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ได้สำเร็จบรรลุเป้าหมาย อีกด้วย


พี่เสือ นักข่าว สงขลา