ตำรวจหัวร้อน แพ้เสียงด่าเฮียโวยใส่ประชาชน ทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยทำความเข้าใจก่อนยกมือไหว้ขอโทษกัน
ตำรวจหัวร้อน แพ้เสียงด่าเฮียโวยใส่ประชาชน ทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยทำความเข้าใจก่อนยกมือไหว้ขอโทษกัน
จากกรณีที่ ที่ผู้ใช้ Tiktok ชื่อ ซุ้ม.ราชสีห์ขนทอง ได้ลงคลิปวีดีโอกล้องวงจรปิด ความยาว 58 วินาที และ ลงข้อความว่า นักเลงในเครื่องแบบบุกทำร้ายร่างกายผมถึงในบ้าน หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวได้ลงไปในโลกโซเซียวก็มีผู้ที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมากกับเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจสอบทราบว่าเหตุเกิดขึ้นช่วงกลางดึกคืนวันที่ 13 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา เหตุเกิดภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในตำบลแพรกษาใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ
ล่าสุดเมื่อช่วงสายวันนี้ ( 14 เมษายน 2568 ) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยัง สภ.บางปู ซึ่งเป็นท้องที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว เพื่อสอบถามถึงเหตุการณ์ช่วงเวลาเกิดเหตุที่เกิดขึ้น โดย พ.ต.อ.วัชระ เทพเสน ผกก.สภ.บางปู จ.สมุทรปราการ ได้เรียกให้อดีตสิบตรี และจ่าสิบตำรวจสายตรวจ สภ.บางปู ซึ่งเป็นคู่กรณีกัน มาพูดคุยทำความเข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยฝั่งจ่าสิบตำรวจยอมรับว่า ตนเองเกิดอารมณ์โมโหขึ้นมาจริง เนื่องจากถูกฝั่งสิบตรีพูดจาต่อว่าในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ โดยตนเองมาเพื่อที่จะตักเตือนไม่ให้อดีตสิบตรีคนนี้ตั้งวงดื่มสุราและเปิดเพลงเสียงดังอันก่อให้เกิดความรำคาญแก่ชาวบ้าน ซึ่งตนได้มาตักเตือนอดีตสิบตรีคนนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้ว แต่เมื่อตนถูกด่าก็เลยเกิดอารมณ์โมโหและใช้กำลังตามที่ปรากฏในคลิป
ในขณะที่ฝั่งอดีตสิบตรียอมรับว่า ในคืนนั้นตนตั้งวงดื่มสุรากันจริงบริเวณหน้าบ้านแล้วก็เปิดเพลงภายในวงสุรา แต่ทั้งนี้ก็มีบ้านอีกหลังหนึ่งที่อยู่ใกล้กันก็นั่งตั้งวงดื่มสุราและเปิดเพลงเช่นเดียวกัน พอชุดตำรวจสายตรวจมาตักเตือนครั้งแรก วงของตนก็ปิดเพลงและนั่งดื่มกินกันเงียบ ๆ แต่ว่าบ้านอีกหลังหนึ่งนั้นยังคงเปิดเพลงอยู่และตั้งวงกินกันในบ้าน เมื่อมีชาวบ้านร้องเรียนครั้งที่ 2 และตำรวจมาถึงก็เห็นวงของตนที่ดื่มกิน จึงเข้าใจคิดว่าเป็นบ้านของตนเองที่ยังเปิดเพลงเสียงดัง ด้วยอาการมึนเมาขาดสติ ตนจึงแสดงกิริยาไม่เหมาะสมและพูดจาต่อว่าตำรวจจริง เพราะเข้าใจคิดว่าตำรวจกลั่นแกล้ง ก่อนที่จะเกิดการทะเลาะวิวาทตามที่ปรากฏในคลิป
หลังจากนั้นทั้งสองฝ่ายก็ได้ลุกขึ้นมาจับมือและยกมือไหว้พูดขอโทษซึ่งกันและกันต่อหน้าสื่อมวลชน ต่างฝ่ายต่างยอมรับว่าเกิดความเข้าใจผิดและขาดสติไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ รวมทั้งให้เรื่องดังกล่าวได้จบลงแต่เพียงเท่านี้ ซึ่งทั้งสองฝ่ายก็จะไม่มีการแจ้งความดำเนินคดีอะไรกันและกัน ขณะเดียวกันอดีตนายทหารสิบตรียังได้ฝากไปยังสื่อสังคมออนไลน์ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดจากความเข้าใจผิดและขอร้องอย่าเอาทัวร์มาลงตนและครอบครัว เพราะตอนนี้ทางครอบครัวเกิดความไม่สบายใจอย่างมาก โดยเฉพาะธุรกิจของครอบครัวที่เกรงว่าจะได้รับผลกระทบ ขอให้ได้ดังกล่าวจบลงแต่โดยดี และตนก็สำนึกผิดแล้ว อย่าด่าโจมตีอะไรกันอีกเลย
ด้าน พ.ต.อ.วัชระ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นถือว่าจบลงด้วยดี ถือว่าเป็นความเข้าใจผิดของทั้งสองฝ่าย ซึ่งทางตำรวจเข้าใจดีว่าในช่วงเทศกาลก็อาจจะมีการเปิดเพลงส่งเสียงกันบ้าง แต่ก็ขอให้อยู่ในขอบเขตและไม่รบกวนรำคาญแก่ชาวบ้าน ซึ่งฝั่งอดีตสิบตรีก็เข้าใจเรื่องนี้และจะพยายามควบคุมสติของตนเองให้มากกว่านี้ รวมทั้งได้อธิบายให้เข้าใจถึงกลายปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานเมื่อได้รับแจ้งเหตุ ในขณะที่ฝั่งตำรวจสายตรวจคู่กรณีอีกฝ่ายก็ได้ตักเตือนในเรื่องของทัศนคติว่าให้ควบคุมอารมณ์ของตนเองในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ด้วย ส่วนเรื่องการดำเนินคดีนั้น ก็จะไม่มีการดำเนินคดีกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพราะทั้งสองฝ่ายพูดคุยทำความเข้าใจและจบปัญหาลงได้ด้วยดี โดยเฉพาะการด่าต่อว่าเจ้าหน้าที่นั้นถือว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด ไม่มีเจตนาจะดูหมิ่นเจ้าพนักงานแต่อย่างใด
โดยจากการสอบถาม นางสาวสุวิมล ขึ้นเสียง อายุ 37 ปี ทางภรรยา ให้ข้อมูลว่า วันเกิดเหตุ นั่งกินกันอยู่หน้าบ้าน แล้วตำรวจเข้ามารอบแรก บอกว่ามีคนโทรแจ้งว่าบ้านเราเสียงดัง หนูก็เลยบอกว่าโอเคค่ะพี่ ตอนแรกเราก็เข้าใจว่าเป็นบ้านเรา หนูก็เลยเดินไปถามว่าใครแจ้งพี่บอกได้ไหม เขาก็บอกว่าก็ไม่มีใครแจ้งหรอก ก็อาจเป็นคนในซอยนี้ หนูก็เลยบอกว่าโอเคแต่หนูก็ไม่เคยมีปัญหากับใครนะ และไม่ได้กินบ่อย หนูก็เดินไปบอกเพื่อนบ้านตรงข้ามแล้วว่า วันนี้ขอเสียงดังวันนึงนะ นั่นคือรอบแรกที่ตำรวจมาบอก โอเคหนูบอกแล้ว หนูก็เก็บ และมีอีกคลิปที่หนูถือลำโพงคือรอบสอง คือเขามาผิดหลัง เขารับแล้งมาอีกบ้านนึง แต่มาเตือนผิดบ้านคือหลังหนู ที่เขารับแจ้งคือบ้านวัยรุ่นตรงข้ามนั้น แต่ตอนนั้นก็เปิดเสียงดังกันสองสามหลัง แต่คือหลังนู้น ก่อนหน้าที่จะด่า มันมีเหตุก่อน คือเขามาด่าว่าให้บ้านหนูเงียบ ซึ่งตำรวจเพิ่งเห็นบ้านเลขที่ทีหลัง แฟนก็เยโมโหว่าเราผิดอะไร ก็เลยเกิดการด่ากันตามในคลิป ซึ่งตอนนั้นหูก็บอกว่าหนูขอร้อง หนูเก็บของและจะพาแฟนเข้าบ้าน พวกพี่กลับไปได้ไหม ตอนนั้นหูไม่อยากให้เกิดเรื่องใหญ่โต เท่านั้นแหลละค่ะ เขาเลยพดว่า มึงด่าใคร มึงด่ากูเหรอไอ้สัส คลิปที่หนูถ่ายตอนนั้นหนูเอาไม่อยู่แล้ว เขากดไปแล้ว หนูตกใจ หนูก็เลยวิ่ง
ส่วน นายสมชัย ขึ้นเสียง อายุ 37 ปี คือเอาง่ายๆเขาเข้ามาผิดหลัง เขารับแจ้งเหตุมาแปลกๆ พวกผมก็เปิดเบาๆ และยังมีอีกสองสามหลังที่เปิดเสียงดัง ซึ่งหลังผมเปิดไม่ได้ดังและนั่งอยู่ข้างใน เขามาอีกรอบสอง ผมก็เยโมโหด้วยอาการมึนเมาด้วย ผมก็ดาตามในคลิป คลิปแรกตนคุณมาคุณก็ไม่เอาลง ผมด่าจริงแต่ถามว่าทำไมเขาเข้ามาระงับเหตุแต่ทำไมพูดรุนแรง ทำแรงแบบนั้น ผมก็ยอมรับผิดในส่วนที่ผมด่า บอกคนบกด่าตำรวจแล้ววิ่งหนี ถ้าไม่หีตำรวจก็ไม่หยุดหรอก ถ้าจะให้ผมเป็นฝ่ายผิดฝ่ายเดียวก็ไม่ใช่ ผมไม่ได้ไปชกต่อย ถึงขั้นฆ่าใครตาย อยากฝากถึงเจ้าหน้าที่ คุณเองก็อารมณ์ร้อนเหมือนกัน คุณอยู่ในเครื่องแบบ คุณก็น่าจะรองรับและใจเย็นกว่านี้ ผมเชื่อว่าหลายคนก็เคยด่าตำรวจ อาจจะด่าแรงกว่าผม แต่ของผมมันเหตุซึ่งหน้า คุณเข้ามาตักเตือนสิ ไม่ใช่มาแบบนักเลง และล็อคแบบนั้น ผมเองวูบไปแปปนึง ผมอยากได้ความยุติธรรม และไปลงบันทึกประจำวันไว้
-รายงานเหตุของเจ้าหน้าที่ – โดยเหตุการณ์เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2568 เวลาประมาณ 00.07 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำจุดบริการประชาชน แพรกษาใหม่ สภ.บางปู
ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่ามีเหตุเปิดเพลงส่งเสียงดังเดือดก่อความเดือดร้อนรำคาญ บริเวณ หมู่บ้านรินทิชา ซอย 8 หมู่ 5 ตำบลแพรกษาใหม่ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินทางไปตรวจสอบ พบ ส.ต.สมชัย ขึ้นเสียง อายุ 36 ปี (ทราบชื่อสกุลจริงภายหลัง) พร้อมพวกรวม 6 คน นั่งดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พร้อมเปิดเพลงเสียงดัง อยู่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 91/190 หมู่บ้านรินทิชา ซอย 8 หมู่ 5 ตำบลแพรกษาใหม่ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ประชาสัมพันธ์ให้เลิกกระทำ เพราะสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนทั่วไป ส.ต.สมชัย ขึ้นเสียง พร้อมพวกทราบ และรับว่าจะปฏิบัติตาม และในเวลา เวลาประมาณ 00.53 น. วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้รับแจ้งจากศูนย์ 191 ว่ามีเหตุเปิดเพลงส่งเสียงดังเดือดก่อความเดือดร้อนรำคาญบริเวณ หมู่บ้านรินทิชา ซอย 8 อีกครั้ง หลังจากสายตรวจกลับไปได้เปิดเพลงดังกว่าเดิม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินทางไปตรวจสอบอีกครั้ง พบ ส.ต.สมชัย ขึ้นเสียง พร้อมพวกรวม 3 คน ยังคงนั่งดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กันอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงประชาสัมพันธ์ให้เลิกการกระทำ ขอความร่วมมือให้แยกย้ายกันพักผ่อน ส.ต.สมชัย ขึ้นเสียง มีอาการเมาสุรา โวยวาย ไม่พอใจไม่พอใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปาแก้วลงพื้นแล้วด่าเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า / มึงไอ้เด็กเมื่อวานซืน ไอ้เหี๊ย / เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า / ดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำตามหน้าที่ / พร้อมกับเข้าควบคุมตัว ระหว่างเข้าควบคุมตัวกลุ่มญาติและเพื่อน ส.ต.สมชัย ขึ้นเสียง ได้เข้ามาขัดขวางการจับกุม ทำให้ ส.ต.สมชัย ขึ้นเสียง หลบหนีวิ่งเข้าไปในบ้าน กลุ่มญาติ ส.ต.สมชัย ขึ้นเสียง พยายามขัดขวาง ไม่ยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปในบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งความดำเนินคดีกับ ส.ต.สมชัย ขึ้นเสียง ในข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงานฯ และต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพบบัญชี Tiktok ชื่อบัญชี ซุ้ม.ราชสีห์ขนทอง ซึ่งเป็นบัญชีของ ส.ต.สมชัย ขึ้นเสียง ลงคลิปวีดีโอจากกล้องวงจรปิด มีข้อความว่า นักเลงในเครื่องแบบบุกทำร้ายร่างกายผมถึงในบ้าน
*******************************
ศราวุธ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ