ชุมพร – ตร.ทล.ชุมพร ตรวจจับGPSพบคนร้ายหัวใสปลอมเอกสารส่งขายตลาดมืดก่อนจะถูกสกัดจับได้ที่ชุมพร
ชุมพร – ตร.ทล.ชุมพร ตรวจจับGPSพบคนร้ายหัวใสปลอมเอกสารส่งขายตลาดมืดก่อนจะถูกสกัดจับได้ที่ชุมพร
ธนากร โกศลเมธี รายงาน 0818923514
วันที่ 25 เมษายน 2568 ตำรวจสอบสวนกลาง CIB โดย บก.ทล. ส่งมอบรถ จยย. คืนผู้เสียหาย หลังจากถูกเช่าแล้วเชิดมาจากภูเก็ต คนร้ายหัวใสปลอมเอกสารหลอกร้านเช่ารถ-บริษัทรับจ้างขนส่งส่งขายตลาดมืดก่อนจะถูกสกัดจับได้ที่ชุมพร
จากเหตุการณ์รถปล่อยถูกขโมย เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้รับการประสาน ผ่านทางสายด่วน 1193 เพื่อให้ช่วยสกัดรถยนต์ที่บรรทุกรถจักรยานยนต์ที่ถูกขโมยไป เจ้าพนักงานตำรวจทางหลวง ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล. นำโดย ร.ต.ท.สมบัติ ปัตเมฆ รอง สว.(ป) ส.ทล.4 กก. 2 บก.ทล., ร.ต.ต.สุริยาปลื้มใจ รอง สว.(ป) ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล.,ร.ต.ต.กุญชร บุญชัด รอง สว.(ป) ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล.,ด.ต.สายชล ตั้งวงค์ ผบ.หมู่ ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล., ด.ต.พัทธนันท์ แดงกระจ่าง ผบ.หมู่ ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล. และ ด.ต.กิตติชัย ช่วยเกิด ผบ.หมู่ ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล.
ได้ร่วมกันสกัดรถยนต์กระบะตู้ทึบคันหนึ่ง ที่ต้องสงสัยว่าขนรถจักรยานยนต์ที่ถูกขโมยมาจากในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต สืบเนื่องจากเมื่อ วันที่ 21 เม.ย.68 เวลาประมาณ 12.00 น. ได้มี น.ส.สุภวรรณ์ ผู้ต้องสงสัย ทำทีมาติดต่อขอเช่ารถ จักรยานยนต์ ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ โดยนำสำเนาบัตรประชาชนมาแสดงต่อร้านเช่ารถจักรยานยนต์แห่งหนึ่ง (ภายหลังตรวจสอบพบว่าเอกสารเป็นของปลอม) โดยขอเช่าระหว่างวันที่ 21-22 เม.ย.68 ในราคา วันละ 500 บาท เป็นเงิน 1,000 บาท และมีค่ามัดจำนวน 3,000 บาท ทั้งหมดคิดเป็นเงิน 4,000 บาท ซึ่ง น.ส.สุภวรรณฯ ได้จ่ายไว้ในวันรับรถ โดยมีเงื่อนไขว่าห้ามนำรถออกนอกจังหวัดภูเก็ต ต่อมา เวลาประมาณ 23.00 น. ของวันเดียวกัน (21 เม.ย.68) เจ้าของรถจักรยานยนต์ที่ปล่อยเช่าได้ตรวจสอบ สัญญาณ GPS ของรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวพบว่าตำแหน่งของรถจักรยานยนต์ที่ถูกเช่ากำลังวิ่งออกนอกพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
เจ้าของรถจักรยานยนต์จึงได้เร่งเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต และได้ประสานมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ผ่านทางสายด่วน 1193 เพื่อให้ช่วยสกัดรถยนต์ที่บรรทุกรถจักรยานยนต์ที่ถูกขโมยไป เพราะเชื่อว่ารถจักรยานยนต์จะต้องถูกเคลื่อนย้ายโดยรถยนต์อย่างแน่นอน แต่ไม่ทราบว่าเป็นรถประเภทใด จนกระทั่ง วันที่ 22 เม.ย.68 เวลา 10.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชุมพรได้วิเคราะห์ข้อมูลรถยนต์ต้องสงสัย จนพบรถยนต์กระบะตู้ทึบคันหนึ่ง ยี่ห้อ อีซูซุ ดีแมกซ์ สีเทา ที่เชื่อได้ว่าเป็นรถที่ขนรถจักรยานยนต์ที่ถูกขโมยมาอย่างแน่นอน จึงได้ใช้รถวิทยุตำรวจทางหลวงเข้าสกัดรถยนต์กระบะตู้ทึบคันดังกล่าว ได้ในพื้นที่ อ.หลังสวน จ.ชุมพร เมื่อตรวจสอบพบว่า ผู้ขับขี่เป็นลูกจ้างของบริษัทรับจ้างขนส่งสินค้าแห่งหนึ่ง ได้รับการว่าจ้างให้ขนรถจักรยานยนต์ให้ไปส่งที่ อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ให้การว่า เมื่อวันที่ 21 เม.ย.68 ได้มี นายซลกิปลี ผู้ต้องหา รายที่ 2 ได้ว่าจ้างให้ตนนำรถจักรยานยนต์ จาก จ.ภูเก็ต ไปส่งที่ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยได้มีการแสดงเอกสารสำเนาทะเบียนรถจักรยานยนต์ และสำเนาบัตรประชาชนของเจ้าของรถ(ภายหลังตรวจสอบพบว่าเป็นเอกสารปลอม) ตนจึงคิดว่าไม่น่าจะมีอะไร เพราะนายซลกิปลี สามารถนำเอกสารประจำตัวของเจ้าของรถมาแสดงได้ตนจึงรับงานนี้
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชุมพร พร้อมกับผู้ขับขี่รถกระบะตู้ทึบที่บรรทุกรถจักรยานยนต์ที่ถูกขโมยมา ได้เดินทางไปที่ สภ.หลังสวน เพื่อทำบึนทึกตรวจยึดและส่งมอบรถจักรยานยนต์คืนให้กับเจ้าของรถที่แท้จริง และจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต จะได้ทำการสืบสวนขยายผลเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจรกรรมรถในครั้งนี้ต่อไป
ตำรวจทางหลวง จึงขอเตือนภัยไปยังกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจรถเช่าและบริษัทรับจ้างขนส่ง ให้ใช้ความระมัดระวังในการพิจารณาเอกสารที่ลูกค้านำมาแสดง ต้องตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียดว่าเป็นเอกสารปลอมแปลงขึ้นมาหรือไม่ เอกสารที่นำมาแสดงควรที่จะต้องเป็นเอกสารตัวจริง ที่นำมาแสดงโดยเจ้าของตัวจริง
