อดีตผู้กำกับโคกเคียนจี้นายกฯย้าย ผบช.ภ.9 และผู้การตำรวจนราฯ หลังแจ้งจับบุกรุกทำลายประตูบ้านพัก เพื่อความเป็นธรรมในการสอบไม่กดดันพยานของตน
ปทิตตา หนดกระโทก ผู้สื่อข่าว นราธิวาสรายงาน Tel.0824154474
อดีตผู้กำกับโคกเคียนจี้นายกฯย้าย ผบช.ภ.9 และผู้การตำรวจนราฯ หลังแจ้งจับบุกรุกทำลายประตูบ้านพัก เพื่อความเป็นธรรมในการสอบไม่กดดันพยานของตน
รายงานข่าวจากแหล่งข่าว แจ้งว่า เมื่อวันที่ 25 เม.ย.68 พ.ต.อ.วีรยุทธ ตาสีพันธุ์ อดีต ผกก.สภ.โคกเคียน อ.เมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส ( ที่ถูก พล.ต.ต.ไมตรี สันตยากุล ผบก.ภ.จว.นราธิวาส สั่งย้ายไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 21 เม.ย.68) โดยให้เหตุผลว่าละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่ จนมีเหตุการณ์รุนแรงขึ้นหลายครั้ง ซึ่งล่าสุดเกิดเหตุคนร้ายวางระเบิดข้างกำแพงรั้วด้านหลังแฟลตที่พักเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โคกเคียน เมื่อวันที่ 20 เม.ย.68 ทำให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและเยาวชนได้รับบาดเจ็บ 10 ราย
ได้เดินทางพบ ร.ต.อ.สุนันต์ สมภักษร รอง สารวัตรสอบสวน สภ.โคกเคียน เพื่อแจ้งว่า ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ(ขอปิดนาม) ว่าได้มี พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 และ พล.ต.ต.ไมตรี สันตยากุล ผบก.ภ.จว.นราธิวาส พร้อมพวก ได้ทำลายประตูบ้านพักของผู้แจ้ง ( เป็นบ้านพักตำรวจเลขที่ 272/41 ม.10 ต.โคกเคียน อ.เมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส )ได้รับความเสียหาย เป็นลูกบิดประตูราคา 500 บาท โดยผู้แจ้งยังไม่ได้รับตรวจสอบทรัพย์สินภายในบ้านพัก ว่าสูญหายหรือถูกทำลายหรือไม่ โดยมีพยานคือ พ.ต.ต.หญิง นิตยา เพ็ชรดี สารวัตรอำนวยการ สภ.โคกเคียน ผู้แจ้งจึงแจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ในข้อหาบุกรุกเคหสถาน ซึ่งเรื่องดังกล่าว ต่อมาเมื่อวันที่ 27 เม.ย.68 เวลาประมาณ 16.23 น. พนักงานสอบสวนได้รับไว้เป็นคดีอาญา ที่ 68/2568 เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง
ซึ่ง ว่าที่ พ.ต.อ. นพดล ติเรกวัฒนสาร ผกก (สอบสวน)ฯ รรท.ผกก.สภ.โลกเคียน ได้ทำหนังสือบันทึกรายงานเรื่องดังกล่าวถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักนายกรัฐมนตรี , ผบ.ตร. , รอง ผบ.ตร., ผู้ช่วย ผบ.ตร., ศปก.ตร. , ผบ.ฉก.ในพื้นที่ จ.นราธิวาส , กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า , ผบช.ภ.9 ,ผวจ.นราธิวาส , ผบก.ภ.จว.นราธิวาส , นายอำเภอเมืองนราธิวาส และ หน.กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส ให้รับทราบแล้ว
และในวันนี้เวลา 13.00 น. วันที่ 28 เม.ย.68 พ.ต.อ.วีรยุทธ อดีต ผกก.สภ.โคกเคียน ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมพร้อมทั้งได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ใต้บังคับบัญชา ที่เข้าร่วมบุกรุกบ้านพักในวันเกิดเหตุกับผู้บังคับบัญชา ถ้าหากให้ความร่วมมือเป็นพยานให้ ก็จะถอนแจ้งความไม่ดำเนินคดี ซึ่งใช้เวลา ประมาณ 10 นาทีจึงแล้วเสร็จ
ซึ่งข้อเท็จจริงดังกล่าว พ.ต.อ.วีรยุทธ ตาสีพันธุ์ อดีต ผกก.สภ.โคกเคียน เปิดเผยว่า การประชุมที่ห้องประชุม ศปก.สภ.โคกเคียน มีการอาฆาตมาดร้ายผู้กำกับ ในที่ประชุมมีประมาณ 10 ถึง 20 คน ผู้บัญชาการ ภาค 9 ก็พูดว่า ไม่ให้ผู้กำกับโคกเคียน วีรยุทธ กลับเหรอจะให้ย้ายออกนอก ภาค 9 แล้วพูดว่ามวยคนละรุ่น ซึ่งพฤติการณ์ของ ผบช.ภ.9 ผมว่าไม่มีคุณธรรม จริยธรรม ไม่มีความเมตตาผู้ใต้บังคับบัญชา ใช้อารมณ์มีใจอาฆาต ผมในฐานะเป็นนักเรียนนายร้อย รุ่น 50 ผมเคารพนับถือรุ่นพี่ทุกคน ผมรับราชการมา 30 กว่าปีแล้ว ผมไม่เคยออกมาร้องเรียนอะไรสักอย่าง ทำให้ภาพพจน์ของ สนง.ตร.เสียหาย ผมทำงานในพื้นที่ตลอดมีผลงานการปฏิบัติเป็นที่ประจักษ์ ต้องการให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ท่านภูมิธรรม เวชยชัย รอง นายกฯและ รมว.กลาโหม ท่าน ผบ.ตร. ท่าน สส.ชัยชนะ เดชเดโช ปธ.คณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร์ ลงมาตรวจสอบ อยากให้การสอบสวนเป็นไปด้วยความยุติธรรม ไม่มีการข่มขู่พยาน อยากให้ทางผู้หลักผู้ใหญ่ ให้ ผบช.ภ. 9 ไปช่วยราชการก่อนหาคนอื่นมารักษาราชการแทน และให้ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส ไปช่วยราชการด้วยหาคนอื่นมารักษาราชการแทน เพื่อจะได้สอบข้อเท็จจริงการสอบสวนเป็นไปด้วยความยุติธรรม ไม่มีการกดดันพยานซึ่งพยานก็เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถ้า ผบช.ภ.9 และ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส อยู่ ไม่ใครกล้าให้การ เพราะ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส เป็นหัวหน้าคณะกรรมการสอบสวน และ ผบช.ภ.9 ก็เป็น หัวหน้าคณะกรรมการสอบสวนของ ภาค 9 การต่อสู้ในเรื่องนี้ผมไม่มีใครช่วยเหลือผมที่มีภรรยาผมยืนเคียงข้างความถูกต้อง ผมรู้ว่าผู้บังคับบัญชาแต่ละคนก็มีแบล็คอยู่แล้ว ผมไม่อะไรผมไม่นายผมสู้ด้วยตัวของผมคนเดียว เพราะคดีนี้เป็นคดีอาญา เพราะทั้ง ผบช.ภ.9 และ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส ได้ตกเป็นผู้ต้องหาแล้ว พร้อมพวกอีกประมาณ 10 คน
นอกจากนี้ พ.ต.อ.วีรยุทธ ยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกด้วยว่า ทรัพย์สินผมก็ยังไม้ได้ตรวจดูเพราะว่า เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเก็บหลักฐานที่ประตู และเมื่อวานี้พนักงานสอบสวนได้ถอดที่ล็อกประตูส่งให้พิสูจน์หลักฐาน ตรวจหา ดี.เอ็น.เอ.และลายนิ้วมือแฝง
/ 28 เมษายน 2568