จับกุมพาดหัวข่าว

จับแล้วหนุ่มแม็กซิมพลเมืองดีในคราบโจร ฉวยโอกาสขโมยมือถือช่วงนักเรียนเจออุบัติเหตุ อ้างตนเองเดือดร้อนต้องหาเงินจ่ายค่าซ่อมรถ

จับแล้วหนุ่มแม็กซิมพลเมืองดีในคราบโจร ฉวยโอกาสขโมยมือถือช่วงนักเรียนเจออุบัติเหตุ อ้างตนเองเดือดร้อนต้องหาเงินจ่ายค่าซ่อมรถ

วันที่ 20 พฤษภาคม 2568 จากกรณีผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จากน้องนักเรียน ว่า มีพลเมืองดีในคราบโจรได้เข้ามาช่วยเหลือเก็บสิ่งของที่ตกหล่นบนถนน หลังเกิดอุบัติเหตุล้มรถจักรยานยนต์ซึ่งโดนรถยนต์เก๋งขับตัดหน้ากระทันหันและได้ใช้จังหวะช่วงเวลาเผลอขโมยโทรศัพท์มือถือไป ซึ่งโทรศัพท์มือถือที่ถูกขโมยมีข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการเรียนที่จำเป็นต้องใช้ในการสอบเข้าเรียนระดับมหาวิทยาลัยในอนาคต หลังเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คอหงส์ คดียังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด จึงเป็นสาเหตุเข้าร้องทุกข์สื่อช่วยเป็นสื่อกลาง เร่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกติดตามจับกุมตัวพลเมืองดีในคราบโจรมาดำเนินคดีตามกฎหมายและติดตามโทรศัพท์มือถือกลับคืนมา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2568 ช่วงเวลา 01.30 น. ก่อนถึงสี่แยกไฟแดงคลองหวะ บ้านคลองหวะ เส้นถนนกาญจนวานิชฝั่งขอออกเมืองหาดใหญ่ ตำบลคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา


ล่าสุด พ.ต.อ.อภิชาต วรรณโก ผกก.สภ.คอหงส์ หลังรับทราบเรื่องจึงได้สั่งการ พ.ต.ท.พันธนันธ์ ภักดีดำรงทรัพย์ รอง ผกก.สส.สภ.คอหงส์ พร้อมชุดสืบสวนสภ.คอหงส์ ลงพื้นที่ตรวจสอบหาข้อมูลและกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่พลเมืองดีในคราบโจรที่ใช้ในการหลบหนี ซึ่งเบื้องต้นทราบชื่อ นายมะภานี เจะเตะ อายุ 35 ปี (ผู้ต้องหา) เป็นชาวจังหวัดนราธิวาส ซึ่งทำงานเป็นพนักงานส่งของบริษัทชื่อดังสีเหลืองและสืบทราบว่าได้พักอาศัยอยู่ที่บ้านพักในพื้นที่บ้านพรุ จึงได้นำกำลังออกติดตามจับกุม
หลังเข้าเจ้ากุมสามารถตรวจยึดรถจักรยานยนต์ 1 คัน พร้อมกับเสื้อคลุมสีเหลืองที่ใช้ใส่ก่อเหตุ 1 ตัว จากนั้นจึงได้ควบคุมตัวไปที่ร้านโทรศัพท์มือถือเพื่อไปตรวจยึดนำโทรศัพท์มือถือกลับมา เบื้องต้นเป็นโทรศัพท์มือถือไอโฟน 11 สีเขียว อยู่ในสภาพหน้าจอมือถือแตก ซึ่งได้ไปตั้งจำนำไว้ 750 บาท ก่อนควบคุมตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจภูธรคอหงส์


ซึ่งระหว่างควบคุมตัวมาที่ชุดสืบสวนได้มีพี่ชายและพี่สาวของนักเรียนมารอพบหน้าผู้ต้องหา ก่อนจะยืนต่อว่าผู้ต้องหาว่า ไม่มีสามัญสำนึกที่มาขโมยโทรศัพท์มือถือของน้องชาย ทั้งๆที่น้องขายเจออุบัติเหตุและได้รับบาดเจ็บ ณ เวลานั้น แต่ทางผู้ต้องหายังคงเถี่ยงกลับไปว่า ตนเองไม่ได้ขโมยเพียงแต่เอามาแก้ไขปัญหาจ่ายหนี้ตัวเองก่อน เนื่องจากโดนทวงค่าซ่อมรถตนเองต้องหาเงินค่าซ่อมรถไปจ่ายให้กับร้านช่างซ่อมรถก่อน เพราะโดนบีบมา ตนเองเลยเครียดจึงได้ก่อเหตุดังกล่าวขึ้นแต่ยืนยันไม่ได้ขโมย จากนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถามความรู้สึกนายธันวา ศรีบริรักษ์ หรือ กาว อายุ 27 ปี (เสื้อส้ม) ซึ่งเป็นพี่ชายของน้องนักเรียน ซึ่งทราบว่าโกรธแค้นตัวผู้ต้องหาในเรื่องขโมยโทรศัพท์มือถือไป


โดยทาง นายธันวา ศรีบริรักษ์ เปิดเผยว่า น้องชายก็ตัวเองอยากได้โทรศัพท์ iPhone เพื่อนำไปประกอบในการเรียนและพ่อแม่ของตนประกอบอาชีพกรีดยางและนำเงินส่วนตรงนั้นที่ได้จากการกรีดยาง มาดาวน์โทรศัพท์มือถือในราคา 9,000 บาท และก็ผ่อนจนครบ ซึ่งโทรศัพท์เครื่องนี้น้องชายจะรักเป็นพิเศษเพราะมีคุณค่าทางจิตใจอย่างมากเนื่องจากได้มาจากน้ำพักน้ำแรงของพ่อแม่ ตอนนี้ตนเองก็ดีใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวได้ เพิ่งถามว่าอยากขอบคุณผู้ต้องหาไม่ดีเข้ามาช่วยเหลือน้องชายวันนั้นก็อยากจะขอบคุณที่เข้ามาช่วยเหลือแต่พลาดนิดเดียวคือเจตนาโมยโทรศัพท์มือถือไปทำไม และแค้นที่สุดคือ พอเอาโทรศัพท์มือถือไปขาย ทางร้านก็ไม่รับซื้อ ยังกล้าที่จะเรียกค่าเจอมือถือ 2 พัน กลับมา ตนอยากรู้ว่าน้องชายของตนไปเกี่ยวอะไรกับเรื่องของคุณ ที่คุณเอามือถือไปแล้วไปจ่ายอะไรนั้นมันเรื่องของคุณ จากนี้ตนก็จะดำเนินการเอาผิดติดคุกกับตัวผู้ต้องหาแน่นอน ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถติดตามจับกุมตัวได้และขอบคุณทุกคนที่ส่งเบาะแสข้อมูลของคนร้ายมาให้ครับ
หลังสอบปากคำนายมะภานี เจะเตะ ผู้ต้องหาขโมยโทรศัพท์มือถือ ได้แจ้งข้อกล่าวหา 1 ข้อหา ข้อหาลักทรัพย์ในยามวิกาล ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.คอหงส์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.


พี่เสือ นักข่าว สงขลา