จับกุมพาดหัวข่าว

ตำรวจท่องเที่ยวจับผู้ต้องหา5คนเล่นยาขายยาโชว์ปืนทำงานผิดกฏหมายอยู่เกินกำหนด

ตำรวจท่องเที่ยวจับผู้ต้องหา5คนเล่นยาขายยาโชว์ปืนทำงานผิดกฏหมายอยู่เกินกำหนด
วันที่ 5 มิ.ย.68 ตำรวจท่องเที่ยวเกาะพะงันออกตรวจพื้นที่ ตามนโยบายของ พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท. ได้สั่งการให้บช.ทท. ปฎิบัติตามนโยบายผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอย่างเคร่งครัด และความผิดอื่นๆที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จับกุมผุ้ต้องหาได้2คน 1 นายลา มิน ไว (Mr.La Min Wai) อายุ 16 ปี สัญชาติ เมียนมาร์ ได้ที่ ริมถนนสาธารณะ ม.8 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานีพร้อมของกลาง ยาบ้า1 เม็ด พร้อมแจ้งขอหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครอง

โดยผิดกฎหมาย และ เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน)”
2 นายเมา โค อา เทะ (Mr.Mg Kor Arr Htet) อายุ 25 ปี สัญชาติ เมียนมาร์ ได้ที่ บ้านเช่าไม่มีบ้านเลขที่ ม.1 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมของกลาง 1. ยาบ้า 1 เม็ด 2.กระสุนลูกซองขนาด 12 เกจ จำนวน 3 นัด 3.กระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 6 นัด แจ้งข้อหา“มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) และ มีเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย
ได้นำตัว ทั้ง2คนส่งพนักงานสอบสวน สภ.เกาะพะงัน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับผู้ต้องหาทั้ง2คนนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเกาะพะงันออกตรวจตราพื้นที่รับผิดชอบ เห็นนายลา มิน ไว (Mr.La Min Wai) อายุ 16 ปี สัญชาติ เมียนมาร์ ท่าทีมีพิรุธ พยายามที่จะเดินหลบหนีเข้าไปในป่าละเมาะข้างทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดตามและสั่งให้หยุด พร้อมแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอตรวจสอบ ได้แสดงท่าทีมีพิรุธ พูดจาวกไปวนมา เหงื่อออกตามร่างกายจำนวนมาก เจ้าหน้าตำตรวจได้ทำการขอตรวจค้นร่างกาย พบยาบ้า 1เม็ด พร้อมให้การยอมรับว่ายาเสพติดดังกล่าวเป็นของตนเองจริง ซึ่งได้มาจากเพื่อนที่ชื่อ นายเมา โค อา เทะ (Mr.Mg Kor Are Htet) อายุ 25 ปี สัญชาติ เมียนมาร์ พบว่ามีการถ่ายรูป ยาเสพติด รูปอาวุธปืน ไว้ในโทรศัพเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ทำการขยายผลการจับกุมและได้ไปยังบ้านหลังดังกล่าว พบ นายเมา โค อา เทะ (Mr.Mg Kor Are Htet) อายุ 25 ปี สัญชาติ เมียนมาร์นั่งอยู่บริเวณหน้าบ้าน ได้แสดงท่าทีมีพิรุธ และแสดงท่าทีที่จะหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งให้หยุดและแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แสดงท่าทีที่จะปกปิดกระเป๋าสะพายข้างที่สะพายอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขอตรวจค้นกระเป๋าใบ พบของกลาง 1. ยาบ้า 1 เม็ด 2.กระสุนลูกซองขนาด 12 เกจ จำนวน 3 นัด 3.กระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 6 นัด ภายในกระเป๋าสีดำที่นายเมาฯสะพายอยู่ที่ตัว
ได้สอบถามนายเมาฯ ให้การยอมรับว่า ยาบ้าและเครื่องกระสุนดังกล่าว เป็นของตนเองจริง โดยตนได้สั่งซื้อมาจากคนไทยไม่ทราบชื่อ ส่งมาจาก อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ผ่านช่องทางเรือนอนข้ามฟาก สุราษฎร์ฯ-พะงัน โดยตนได้สั่งยาบ้ามาทั้งหมด 10 เม็ด, กระสุนปืนลูกซอง 12 เกจ จำนวน 3 นัด และ กระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 6 นัด โดยนายเมาฯให้การว่ายาบ้านั้นตนได้แบ่งให้กับเพื่อนๆและรวมถึงใช้เสพเอง

คดีที่2
ตำรวจท่องเที่ยวเกาะพะงันได้รับแจ้งจากชาวบ้าน บริเวณ ม.3 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี กรณีมีชาวต่างด้าวทำงานเป็นช่างไม้อยู่ภายในบ้านสังกะสี ม.3 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ใช้เครื่องมือในการตัด เลื่อยไม้ ส่งเสียงดังรบกวนชาวบ้านโดยรอบ จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชา พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท. พ.ต.ท.วินิจ บุญชิต สว.ส.ทท.5 กก.2 บก.ทท.3 ทราบ และได้สั่งการให้เข้าตรวจสอบ พร้อมจับผู้ต้องหาได้2 ราย 1 นายมานูเอล แวน เดน บูเวนแคมป์ (Mr.Manuel Van Den Bovenkamp) อายุ 45 ปี สัญชาติ เนเธอร์แลนด์
แจ้งข้าหา “เป็นนายจ้างจ้างบุคคลต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิ์จะทำได้ (ช่างไม้) และ เป็นนายจ้างจ้างบุคคลต่างด้าวผู้ได้รับอนุญาตให้ทำงานไม่แจ้งให้ทราบถึงผู้เป็นนายจ้างสถานที่ทำงานของนายจ้างและลักษณะงานหลักที่ทำให้นายทะเบียนทราบ ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่เข้าทำงานกับนายจ้าง”
2 นายตา ตุน ไซ (Mr.Thar Tun Zai) อายุ 36 ปี สัญชาติ เมียนมาร์ พร้อมแจ้งขอหา “เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิ์จะทำได้ (ช่างไม้) และ เป็นบุคคลต่างด้าวผู้ได้รับอนุญาตให้ทำงานไม่แจ้งให้ทราบถึงผู้เป็นนายจ้างสถานที่ทำงานของนายจ้างและลักษณะงานหลักที่ทำให้นายทะเบียนทราบ ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่เข้าทำงานกับนายจ้าง”
ได้นำตัว ทั้ง2คนส่งพนักงานสอบสวน สภ.เกาะพะงัน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายมานูเอลให้การยอมรับว่า ตนได้ว่าจ้างนาย ตา ตุน ไซฯ ให้มาทำงานเป็นช่างไม้ภายในโกดัง ดังกล่าว จริง โดยให้ค่าจ้างวันละ 500 บาท เป็นเงินสดในทุกๆวัน
จากการสอบถาม นายตา ตุน ไซ ทราบว่า ตนได้ถูกว่าจ้างโดย Mr.Manuel van den Bovenkamp สัญชาติ เนเธอร์แลนด์ ได้ว่าจ้างให้ตนมาทำงานเป็นช่างไม้ภายในโกดังดังกล่าว ซึ่งตนได้รับค่าจ้างจาก Mr.Manuel วันละ 500 บาท เป็นเงินสด

คดีที่3
ตำรวจท่องเที่ยวเกาะพะงันได้รับแจ้งจากพลเมืองดี มีหญิงชาวอังกฤษ อาศัยอยู่ภายในห้องพักโดยไม่ได้ออกไปไหนเป็นระยะเวลานาน จึงได้ขอความช่วยเหลือให้ตำรวจท่องเที่ยวเกาะพะงันเข้าตรวจสอบ บริเวณบ้านพัก แห่งหนึ่ง ม.1 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อไปถึงบ้านหลังดังกล่าวจึงได้เดินตรวจสอบบริเวณรอบๆ พบว่ามีคนอาศัยอยู่ภายใน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เคาะประตู จนกระทั่ง นางสาวเทีย โคเล็ท เฟล็กแมน (Ms.Tia Colette Flexman) อายุ 56 ปีสัญชาติ อังกฤษ เปิดประตู เจ้าหน้าตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมแสดงบัตรข้าราชการเพื่อขอตรวจสอบหนังสือเดินทางพบว่าอยู่เกินกำหนด จำนวน 1,880 วัน จึงได้แจ้งข้อหา
“เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (อยู่เกินกำหนด 1,880 วัน)”
ได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เกาะพะงัน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบถามนางสาวเทียให้การยอมรับว่าตนได้อยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยการอนุญาตสิ้นสุดไปแล้วจริง เมื่อครบกำหนดอนุญาตแล้ว นางสาวเทียฯ ไม่ได้เดินทางออกนอกราชอาณาจักรแต่อย่างใดและอยู่ในราชอาณาจักรแบบผิดกฎหมายเรื่อยมา จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัว

ทั้งนี้ทางท่าน พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำผบช.ทท.ได้กำชับหัวหน้าสถานีตำรวจท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวนำร่องและพื้นที่ไกล้เคียงเร่งให้กวาดล้างการกระทำผิดของกลุ่มชาวต่างชาติที่เข้ามาแฝงตัวก่ออาชญากรรมทุกรูปแบบ ให้ดำเนินคดีเด็ดขาดไม่เว้นทุกกรณี เพื่อสร้างภาพลักษณการท่องเที่ยวสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว อย่างจริงจัง


พี่เสือนักข่าวสงขลา